วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คาเซะคาเงะ


 คาเสะคาเงะ เป็นผู้นำ ในช่วงแรกได้ถูกไดเมียวแห่งแคว้นลมลดงบประมาณของซึนะลงและได้ส่งคำร้องภาระกิจไปให้โคโนฮะแทนจึงเป็นเหตุให้ซึนะผูกมิตรกับแคว้นโอโตะร่วมมื่อกันโจมตีโคโนฮะแต่หลังจากพ่ายแพ้ให้แก่โคโนะฮะ และได้รู้ว่า คาเสะคาเงะ รุ่นสี่ ถูกโอโรจิมารุสังหารจึงได้ส่งคำขอโทษมายังโคโนฮะและได้เป็นพันธมิตรกันอีกครั้งซึ่งแน่นแฟ้นขึ้นจาการที่โคโนะฮะได้ช่วยเหลือ คาเสะคาเงะรุ่นที่ 5 ซึ่งคือกาอาระจากพวกแสงอุษา

ซึจิคาเงะ


สึจิคาเงะ ซึ่งปัจจุบันคือสึจิคาเงะรุ่นสามเป็นผู้ปกครอง เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้คาถาดิน และเป็นผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดแบบพิเศษที่สามารถควบรวมธาตุดิน ลม และไฟ เป็นผู้ใช้วิชานินจาคาถาธุลี อิวะงาคุเระมีสัตว์หาง คือ 4หางและ 5หางไว้ในครอบครองซึ่งปัจจุบันถูกแสงอุษาแย่งชิงไปทั้งหมด

มิซึคาเงะ


ผู้นำของที่นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อมิซึคาเงะ นินจาคิริงาคุเระเชี่ยวชาญในการใช้คาถาน้ำ มิซึคาเงะปัจุบันคือรุ่น ห้า มีความสามารถในการใช้คาถา ไฟ น้ำและดินได้อย่างชำนาญ ซึ่งเป็นขีดจำกักทางสายเลือดที่หาได้ยาก สัตว์หางของคิริงาคุเระคือ สามหาง สถิตอยูในร่างของ มิซึคาเงะรุ่นสี่ และ หกหาง สถิตอยู่ในอูตากาตะ ปัจจุบันสัตว์หางทั้งสอง ถูกแย่งชิงไปแล้วโดยแสงอุษา ในอดีตคิริงาคุเระถูกขนานนามว่า หมู่บ้าน "หมอกโลหิต"ซึ่งมาจากการฝึกนินจาของที่นี้ที่มีความรุนแรง และอำหิตมากเนื่องจากฝึกให้ผู้เข้ารับการคัดเลือกฆ่ากันเอง

ไรคาเงะ


ไรคาเงะ ซึ่งปัจจุบันมีไรคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นผู้นำของแคว้น นินจาในคุโมะงาคุเระเชี่ยวชาญในการใช้คาถา สายฟ้า และเช่นเดียวกับ คิริ อิวะ ซึนะ และโคโนะฮะ คุโมะงาคุเระมีสัตว์หางอยู่ในครอบครองสองตน คือ สองหาง ซึ่งสถิตอยู่ในร่างของยูกิโตะ และแปดหาง ซึ่งสถิตอยู่ในร่างของคิลเลอร์ บี น้องชายของ ไรคาเงะเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังสถิตร่าง ไม่กี่คนที่สามารถควบคุมสัตว์หางได้ชึ่งปัจจุบันสองหางได้ถูกแสงอุษาแย่งชิงไปแล้วแต่แปดหางสามารถหลบหนีมาได้ ย้อนกลับมาในช่วงแรกที่ผู้ นำของคุโมะและโคโนะฮะได้ทำสัญญาพันธมิตรกันผู้นำของคุโมะได้พยายามจับ ฮิวงะ ฮินาตะไป แต่ได้ถูกพ่อของฮินาตะสังหาร จึงเป็นเหตุให้ คุโมะเรียกร้องให้ส่งศพของพ่อของฮินาตะไปให้เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับชีวิตของผู้นำและหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามระหว่างแคว้น แต่ตระกูนฮิวงะได้ส่งศพของพ่อของเนจิซึ่งเป็นฝาแฝดไปให้แทน ซึ่งทำให้คุโมะงาคุเระไม่ได้รับเนตรสีขาวเนื่อจากมันได้ถูกผนึกเมื่อเขาตาย

ประวัติ จูโกะ




จูโกะ (ญี่ปุ่น: 重吾)

ชื่อ :
 จูโกะ
อายุ : 18
วันเกิด : 1 ตุลาคม
ส่วนสูง : 202.1 ซม.
น้ำหนัก : 75.8 ก.ก.
กรุ๊ปเลือด : -
หมายเลขทะเบียนนินจา : -
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : -
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : ตอนที่ 348
หมู่บ้าน : โอโตะงาคุเระ
ระดับ : -
ความหมายของชื่อ : Juu = หนัก, ใหญ่, มีอำนาจมาก go = ฉัน
บุคคลในกลุ่ม : คาริน, ซาสึเกะ, ซุยเงสึ

จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ
ระดับต่ำ (D-Rank) : 0
ระดับทั่วๆไป (C-Rank) : 0
ระดับสูง (B-Rank) : 0
ระดับสูงมาก (A-Rank) : 0
ภารกิจขั้นเทพ (S-Rank) : 0

ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน : 
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : -
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : -

ข้อมูลตัวละคร

จูโกะเป็นผู้ที่ติดตามโอโรจิมารุมาตั้งแต่สมัยก่อนและก็ถูกกักขังในฐานะตัว ทดลองวิชาต้องห้ามของโอโรจิมารุ จูโกะเป็นแบบทดลองต้นกำเนิดของอักขระคำสาปที่โอโรจิมารุคิดค้นขึ้นมา จูโกะครอบครองอักขระที่ทำให้ความสามารถของร่างกายตนเองไร้การเจ็บปวดและแข็ง แกร่งขึ้น แต่เคราะห์ร้ายที่จูโกะไม่สามารถควบคุมความสามารถนั้นได้ เมื่อจูโกะจะใช้อักขระต้องสาป จูโกะก็ไร้การควบคุมสติของตนเอง และกลายเป็น “เครื่องจักรสังหาร”

เหตุผลที่จูโกะติดตามโอโรจิมารุเป็นเพราะว่า คิดว่าโอโรจิมารุสามารถช่วยเขาได้ โอโรจิมารุจึงนำจูโกะไปที่ฐานลับทางทิศเหนือและใช้เขาในการทดลองโครงสร้าง ทางพันธุกรรม โดยนำไปประกอบใหม่ และปลูกฝังเอนไซม์ลงไปในตัวจูโกะและคนอื่นๆที่โอโรจิมารุสรรหามาเพื่อทดลอง และจะนำไปเป็นภาชนะของตน ความสามารถของคนที่โดนปลูกอักขระลงไปนั้นจะแตกต่างกันตามตัวคนและดึงพลังแฝง ของแต่ละคนออกมาด้วย

จูโกะโดนแยกออกมาขังเดี่ยวจากนักโทษที่ถูกทดลองอักขระคนอื่นๆ เพราะเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ เป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกินที่จูโกะถูกขังอยู่ในคุกนั้น จนกระทั่งซาสึเกะเอาชนะโอโรจิมารุได้และรวบรวมลูกทีมเพื่อสร้างทีมใหม่ของ เขา ทีมใหม่ของเขาประกอบด้วย นินจาจากหมู่บ้านคิริงาคุเระ ซุยเงสึ, คาริน ผู้ดูแลนักโทษ และ จูโกะ

ในอดีตสมัยก่อนจูโกะเคยได้สู้กับซุยเงสึตามคำสั่งของโอโรจิมารุ อย่างไรก็ตามในตอนนั้นจูโกะไม่สามารถปลดปล่อยความสามารถของเขาออกมาได้ในการ ต่อสู้นั้น ย้อนกลับไปในอดีตอีกจูโกะก็ได้พบกับคิมิมาโร่ทายาทที่เหลือเพียงหนึ่งเดียว แห่งตระกูลคางุยะ และเป็นผู้เดียวที่รับมือกับอาการคลุ้มคลั่งของจูโกะได้ ซุยเงสึและคารินต่างพากันคัดค้านเรื่องที่นำจูโกะเข้ามาในกลุ่มเพราะจูโกะ นั้นไม่สามารถควบคุมตนเองได้และไม่รู้ว่าจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาเมื่อไร

เมื่อซาสึเกะกับพวกมาถึงที่รังลับที่จูโกะอยู่ ก็พบว่าด้านนอกมีแต่ร่างทดลองที่ฆ่าฟันกันเองตายเกลื่อน และบางร่างที่ยังรอดก็พยายามโจมตีซาสึเกะ แต่ก็โดนกำจัดอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามกระแสการต่อสู้ด้านนอกทำให้จูโกะที่อยู่ภายในเริ่มคลุ้มคลั่ง เมื่อพวกซาสึเกะเข้าไปด้านในก็ถูกจูโกะโจมตี ซุยเงสึจึงต้องรีบเข้าไปรับมือและสู้กับจูโกะอีกครั้ง ซาสึเกะพยายามใช้คำพูดโน้มน้าวให้จูโกะเข้ามาร่วมทีม ด้วยจุดประสงค์ที่จะให้จูโกะใช้ความสามารถของเขาให้เป็นประโยชน์และทำให้สอง คนนั้นหยุดการต่อสู้

จูโกะเริ่มกลับเข้าสู่ความเป็นตัวของตัวเอง และกลัวความสามารถของตนเองถ้าออกไปภายนอกจะเป็นอย่างไรจะกลับไปเป็นสภาวะที่ มีแต่การทำลายล้างเท่านั้น แต่ซาซึเกะได้สนทนากับจูโกะ จนจูโกะเข้าใจถึงพลังที่จะมาหยุดการคลุ้มคลั่งของตนเองได้ต่อจากคิมิมาโร่

ซาสึเกะ คาริน ซุยเงสึ จูโกะ ได้มีทีมที่ชื่อว่า งู มีเป้าหมายไปที่ตัวของอิทาจิ หลังจากการต่อสู้ระหว่างซาสึเกะและอิทาจิจบลงนั้นซาซึเกะได้รู้ถึงเรื่องราว ต่างๆที่โทบิพูดมาก็เลยเปลี่ยนชื่อทีมใหม่ว่า เหยี่ยว และได้รับหน้าที่จากโทบิให้ไปจับ8หาง จูโกะจึงได้ปะทะกับ8หางด้วย

การต่อสู้ได้เปิดฉากขึ้นโดยซาสึเกะเป็นฝ่ายบุกเข้าหา 8 หางก่อน เมื่อสู้ไปสักพักในขณะที่ซาสึเกะกำลังพลาดท่า ซุยเงสึก็เข้ามาช่วยป้องกันและจูโกะก็เข้ามาโจมตี คิลเลอร์บีจากด้านหลัง จูโกะใช้พลังจากสภาวะที่ 2 อัดพลังจากแขนเข้ากระเทกหน้าของคิลเลอร์บี ทำให้ซาสึเกะมีโอกาสได้รักษาตัวจากการกัดคาริน เมื่อฟื้นตัวก็เริ่มต่อสู้อีกครั้ง โดยคิลเลอร์บีเริ่มเข้าโจมตีซุยเงสึโดยต่อยเข้าที่ท้อง ซุยเงสึจึงใช้น้ำในตัวจับคิลเลอร์บีเอาไว้และซาสึเกะก็เข้ามาปล่อยพันปักษา ใส่ ต่อด้วยจูโกะกระโจนเข้ามาใช้แรงในสภาวะที่ 2 ของแขนทั้ง 2 ข้างอัดใส่จนพื้นแตกทลาย แต่ร่างของคิลเลอร์บีได้หายไป คารินจึงจับจักระและพบว่ากำลังซ่อนตัวอยู่

คิลเลอร์บีที่เริ่มเอาจริงก็ใช้ร่าง ที่มีหางงอกและเข้าโจมตีซาสึเกะจนบาดเจ็บสาหัส จูโกะจึงเข้าไปหาซาสึเกะและแบ่งพลังตัวเองเพื่อรักษารอยแผลเหวอะหวะที่หน้า อกของซาสึเกะ ระหว่างนั้นคิลเลอร์บีได้เปลี่ยนเป็นร่างสัตว์หางขนาดยักษ์มีลักษณะเหมือน วัวผสมปลาหมึก จูโกะที่แบ่งพลังให้ซาสึเกะ จึงกลายร่างเป็นเด็ก ขณะนั้นเอง 8 หางก็เข้ามาโจมตี ซุยเงสึที่เห็นว่าทางด้านซาสึเกะป้องกันตัวไม่ทันแน่ๆ ซุยเงสึจึงใช้ตัวเองเข้าปะทะกับ 8 หาง แต่ก็ถูกซัดกับมากลายเป็นสภาพก้อนน้ำ ซาสึเกะที่เห็นว่าไม่ไหวแล้วจริงๆจึงใช้เทวีสุริยา ไฟที่เผาทำลายร่างของ 8 หางแต่ไฟนั้นได้ลามไปติดคารินที่สลบอยู่ ซาสึเกะจึงดับไฟบนตัวคารินและให้จูโกะดึงตัวคารินออกมา ซาสึเกะยังคงใช้เทวีสุริยาโจมตี 8 หางเพื่อให้แน่ใจว่าคิลเลอร์บีไม่ขัดขืนแล้ว เมื่อไฟดับลง ซาสึเกะก็เข้าไปนำร่างของคิลเลอร์บีมาและนำไปให้โทบิ และเมื่อเริ่มพิธีกรรมดึงสัตว์หาง พวกแสงอุษาก็พบว่านั่นไม่ใช่ร่างจริงของ 8 หาง แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่าง 8 หางซึ่งก็คือ หาง 1 หางที่ถูกตัดออกนั่นเอง

ในตอนที่ซาสึเกะเอาชนะคิลเลอร์บีได้นั้น มีนินจาคุโมะคนอื่นๆมาเห็นเข้า เห็นคิลเลอร์บีโดนจับตัวไปจึงรีบนำข่าวกลับไปแจ้งให้ไรคาเงะผู้เป็นพี่ชาย คิลเลอร์บีทราบ ไรคาเงะจึงเรียกประชุม 5 คาเงะ เพื่อจัดการซาสึเกะ ในการประชุมนี้พวกซาสึเกะได้ทำการแอบลักลอบเข้าไปในที่ประชุมโดยเป็นแผนของ แสงอุษา เมื่อการประชุมเริ่มขึ้นได้ไม่นาน เซ็ตสึก็ปรากฏตัวกลางที่ประชุม ทำให้พวกคาเงะและนินจาองครักษ์ต้องเริ่มการต่อสู้ ไรคาเงะมุ่งหน้าไปในทางที่พวกซาสึเกะอยู่เพื่อจัดการซาสึเกะ แก้แค้นให้กับน้องชาย ไรคาเงะที่เจอตัวซาสึเกะจึงเข้าปะทะกับซาสึเกะพร้อมกับนินจาองครักษ์อีก 2 คนซึ่งก็คือดารุยและซี

ซาสึเกะพุ่งเข้าโจมตีไรคาเงะ แต่ก็ถูกสกัดโดยดารุยด้วยวิชานินจาน้ำกำแพงวารีและโจมตีกลับต่อเนื่องด้วยวิ ชานินจาสายฟ้าคลื่นสะท้านจิต ทำให้ซาสึเกะกระเด็นกระดอนกลับมา ซีได้ใช้คาถาลวงตาสายฟ้าเสาประกายอัสนี ทำให้การเคลื่อนไหวของซาสึเกะและจูโกะหยุดชะงักลง ไรคาเงะและดารุยจึงพุ่งเข้ามาโจมตีแต่ซาสึเกะที่มองคาถาลวงตาออกจึงหลบและ เรียกสติจูโกะกลับมาพร้อมทั้งป้องกันการโจมตีของไรคาเงะและดารุย แต่ซุยเงสึที่เห็นว่าแรงของไรคาเงะนั้นแรงมหาศาล จึงเข้ามาใช้ดาบของตนรับการโจมตี เป็นผลให้ดาบสะบั้นคอหักครึ่ง จูโกะที่เอาจริงจึงกลายเป็นสภาวะที่ 2 เต็มตัวและเข้าปะทะกับไรคาเงะ

จูโกะถูกไรคาเงะอัดเข้ากระแทกกับกำแพงอย่างสาหัสจนทะลุร่างกาย แต่ก็ยังสามารถใช้พลังสร้างปืนใหญ่จำนวนมาก โจมตีใส่ไรคาเงะในระยะเผาขน แต่ไรคาเงะที่เหมือนว่าน่าจะหมดสติลงก็กลับฟื้นขึ้นมาและอัดกระแทกลำตัวจู โกะปลิวไปกระแทกกับกำแพงจนร้าว ซาสึเกะที่เห็นโอกาสเหมาะจึงเข้ามาโจมตีและใช้พันปักษาเจาะเข้าที่หน้าอกของ ไรคาเงะ แต่ก็ไม่เป็นผลจึงถูกไรคาเงะจับสแลมด้วยท่าไรงะบอมบ์ ซาสึเกะที่ไหวตัวทันจากท่านั้นจึงใช้เนตรอินทรีโจมตีด้วยเทวีสุริยา ไรคาเงะที่หลบทันจึงใช้ท่าสายฟ้าฟาดวารีเข้าโจมตีซาสึเกะที่ปกคลุมไปด้วยไฟ ของเทวีสุริยา ทำให้ไฟนั้นลุกติดแขนของไรคาเงะ แต่ไรคาเงะไม่สนใจ ซาสึเกะที่เอาจริงก็ได้ใช้เทพวายุต่อสู้ ทางด้านจูโกะนั้นก็กลับสู่สภาพเดิม ส่วนคารินก็พบตัวดันโซแล้ว ซาสึเกะจึงผละจากไรคาเงะและบุกมาหาดันโซ แต่ซาสึเกะที่เข้ามาในดงคาเงะจึงถูกโจมตี แต่เซ็ตสึเข้ามาช่วย ซึจิคาเงะโจมตีซาสึเกะ และแล้วโทบิก้ปรากฏกายพร้อมช่วยซาสึเกะรวมถึงคารินเอาไว้ และพาตัวหนีออกมา ทางด้านซุยเงสึและจูโกะที่ยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงหาทางหนีออกมาด้วยแผนของซุยเงสึ

ประวัติ คาริน



คาริน (ญี่ปุ่น: 香燐)

ชื่อ : คาริน
อายุ : n/a
วันเกิด : 20 มิถุนายน
ส่วนสูง : 162.6 cm
น้ำหนัก : 45.8 kg
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : n/a
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : Chapter 347
หมู่บ้าน : หมู่บ้านแห่งเสียง
ความหมายของชื่อ : Ka(คา) = เครื่องหอม-กลิ่น-น้ำหอม , Rin(ริน) = ฟอสฟอรัส
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : ซุยเงสึ , อุจิวะ ซาสึเกะ , จูโกะ , โอโรจิมารุ
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ : n/a 
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน : n/a 

เรื่องราวตัวละคร

คารินคือคุโนะอิจิ(นินจาหญิง)ที่เป็นลูกน้องคนหนึ่งของโอโรจิมารุ เธอมีตาสีแดง และเธอมีทรงผมค่อนข้างแปลก ผมของเธอข้างหนึ่งเป็นผมสั้นและยุ่งเหยิง ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นผมยาวสลวย คารินทำหน้าที่คุมรังลับด้านใต้ของโอโรจิมารุ เธอเป็นนินจาประเภทสายตรวจจับทำให้เธอสามารถรับรู้ถึงจำนวนคนที่ำกำลังมุ่ง หน้ามาหรือแม้กระทั่งหาบุคคลที่ต้องการหาในกลุ่มคนมากมายได้ ความสามารถของเธออีกอย่างหนึ่งคือ การรักษา ซึ่งการรักษาของเธอจะผิดแผกแตกต่างออกไปคือ เธอจะให้ผู้บาดเจ็บกัดตรงในก็ได้ที่ตัวเธอแล้วแผลทุกแห่งบนร่างกายก็จะได้ รับการรักษา 

เธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อโอโรจิมารุมากถึงแม้เธอจะรู้ข่าวว่า โอโรจิมารุได้ตายไปแล้ว แต่เธอก็ยังเฝ้ารังลับด้านใต้อยู่ แต่พอซาสึเกะมาชวนเข้าหน่วยย่อยของเขา ซึ่งมีเป้าหมายคือ อุจิวะ อิทาจิ แห่งองค์กรแสงอุษา เธอก็เล่นตัวเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนใจไปกับซาสึเกะทันที เพราะคารินก็แอบชอบซาสึเกะอยู่แล้ว จากภาระกิจครั้งก่อนที่โอโรจิมารุให้ทำ คือการตามจับนักโทษ118คนที่แหกคุกหนีกลับมาให้ได้ ระหว่างภาระกิจซาสึเกะได้ช่วยเหลือคารินไว้จึงทำให้คารินหลงรักซาสึเกะ ด้วยเหตุนี้เธอจึงยอมร่วมเดินทางไปกับซาสึเกะและอาสาที่จะพาไปรังลับด้าน เหนือเพื่อที่จะพาไปหาจูโกะ ระหว่างที่จะเข้าไปในรังลับก็ได้มีกลุ่มนักโทษที่กลายร่างเป็นสภาวะที่ 2 ออกมาโจมตี ซาสึเกะจึงให้คารินตรวจสอบว่ามีจูโกะอยู่ในกลุ่มพวกนั้นหรือไม่ แต่ก็ไม่มีพวกซาสึกะจึงใช้กำลังฝ่าเข้าไป และสุดท้ายก็ได้ตัวจูโกะมาร่วมทีม

หลังจากที่หน่วยย่อยครบแล้วซาสึเกะจึงสั่งให้ทุกคนตามหาอิทาจิ ระหว่างการหานั้นคารินได้เดินผ่านซากุระซึ่งมีสุนัขนินจาติดตามดมกลิ่นของซา สึเกะอยู่ แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นทั้ง2คนเพียงแค่เดินผ่านกันเท่านั้น หลังจากที่คารินตามหาอิทาจิอยู่ได้ซักพักจึงกลับไปหาซาสึเกะแต่ระหว่างทาง ที่กำลังจะกลับได้เกิดแสงประหลาดขึ้นในที่ที่เป็นจุดนัดพบของกลุ่ม คารินจึงตรวจหาซาสึเกะดูแต่ก็ไม่พบจึงมุ่งหน้าไปที่นั้นทันที และเมื่อไปถึงก็พบกับซาสึเกะที่มีสภาพสบักสบอม ทีมงูจึงพาเขาไปพักผ่อนทันที 


ระหว่างนั้นคารินจึงออกไปซื้อของเพื่อมาทำกับข้าว แต่ก็สัมผัสได้ถึงกลุ่มจักกระของพวกนารูโตะที่ ตามหาซาสึเกะ คารินจึงรีบกลับที่พักและบอกซาสึเกะทันที ทุกคนจึงรีบออกเดินทางทันทีแต่ก่อนที่จะออกเดินทางคารินได้ขอร้องให้จูโกะ เรียกนกมาจำนวนมากและนำเศษผ้าที่มีกลิ่นของซาสึเกะติดไว้กับนกเหล่านั้นและ ปล่อยให้บินไปเพื่อที่จะให้พวกโคโนะฮะสับสนและตามหากลิ่นของซาสึเกะตัวจริง ไม่พบ 


เมื่อถึงรังลับของแสงอุษาที่แรก ซาสึเกะสั่งให้ทีมของเขารออยู่ด้านนอกและเขาจะเข้าไปคนเดียว หลังจากรออยู่นานคารินจึงใช้ความสามารถตรวจดูและพบว่ามีจักระอื่นอยู่ด้วย จึงตามเข้าไปช่วยพร้อมกับซุยเงสึและจูโกะ และทุกคนก็ต้องออกเดินทางอีกครั้งเพราะซาสึเกะมีเป้าหมายไปที่รังลับของอุจิ วะ และเมื่อมาถึงคิซาเมะก็ปรากฏตัวเพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง เข้าไป คารินพยายามห้ามซาสึเกะแต่ก็ไม่ได้ผล หลังจากผลการต่อสู้ของซาสึเกะและอิทาจิจบลงซึ่งผลออกมาซาสึเกะชนะ เซ็ตสึได้บอกว่าซาสึเกะอยู่รับลับฝั่งตะวันออก ทุกคนจึงตัดสินใจไปหาซาสึเกะ 


หลังจากทีมงูเปลี่ยนชื่อเป็นทีมเหยี่ยวและเข้าเป็นสมาชิกแสงอุษางานชิ้นแรก ที่ทีมเหยียวทำคือ การตามหาพลังสถิตร่าง 8 หาง โดยคารินรับหน้าที่ในการตรวจดูจักระของคิลเลอร์บี ระหว่างต่อสู้กับคิลเลอร์บีนั้น ซาสึเกะได้รับการบาดเจ็บคารินจึงใช้ความสามารถพิเศษอีกอย่างคือการรักษาโดย ให้ซาสึเกะกัดที่แขน ซาสึเกะกลับมาสู้อีกครั้ง แต่แล้วซาสึเกะก็ต้องบาดเจ็บอีกแต่ครั้งนี้หนักกว่าครั้งก่อนมากทำให้คาริน ไม่สามารถรักษาได้ จูโกะจึงอาสารักษาแทน. ในระหว่างที่ 8 หางกำลังโดนเทวีสุริยาของซาสึเกะก็ได้สะบัดหนวดหมึกซึ่งมีไฟเทวีสุริยาติด อยู่ไปโดนคารินเข้า แต่ซาสึเกะก็ได้ช่วยดับไฟเทวีสุริยาไว้ทันและก็รอดมาได้พร้อมกับจับ8หางมา ได้ในที่สุด


หลังจากจับ 8 หางได้แล้วทีมเหยี่ยวก็ได้ถอนตัวออกทันทีและมุ่งหน้าไปโคโนะฮะแต่โทบิก็มา ห้ามไว้และบอกว่าดันโซออกจากโคโนะฮะเพื่อไปประชุม ดังนั้นทีมเหยี่ยวจึงเปลี่ยนเป้าหมายเพื่อที่จะไปฆ่าดันโซ เมื่อมาถึงซาสึเกะก็ได้ให้คารินใช้ความสามารถของเธอหาดันโซ แต่ทว่า ในระหว่างการหาก็ได้เกิดการปะทะขึ้นระหว่างซาสึเกะและไรคาเงะซึ่งในกลุ่มของ ไรคาเงะนั้นก็มีนินจาสายตรวจจับเช่นกันคารินจึงจำเป็นต้องซ่อนจักระของตนเอง เอาไว้เพื่อไม่ให้นินจาสายตรวจจับคนนั้นเจอ ไม่นานนักซาสึเกะก็ได้จัดการกับนินจาสายตรวจจับนั้น และคารินก็สามารถหาต่อได้ ในที่สุดคารินก็หาดันโซเจอ ซาสึเกะจึงรีบมุ่งหน้าไปทันที 


เมื่อไปถึงเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างเหล่าคาเงะและซาสึเกะจึงทำให้ดันโซหนี ไป ระหว่างการต่อสู้ขณะที่ซาสึเกะกำลังจะเสียท่าให้กับสึจิคาเงะ โทบิก็มาช่วยซาสึเกะไว้และดูดซาสึเกะและคารินเข้าไปในมิติอื่นเพื่อให้คาริน ได้รักษาซาสึเกะ เมื่อรักษาเสร็จมาดาระก็ปล่อยซาสึเกะและคารินออกมา เพื่อที่จะให้ซาสึเกะสู้กับดันโซ โดยมีคารินมองอยู่ห่างๆ การต่อสู้ก็ดำเนินไปอย่างดุเดือด และแล้วซาสึเกะก็พลาดท่าโดนอักขระผนึกการเคลื่อนไหวเอาไว้ คารินจึงพยายามที่จะเข้าไปช่วยแต่ก็โดนดันโซโจมตีออกมา ต่อมาซาสึเกะสามารถรอดออกมาได้ด้วยตนเอง ระหว่างที่การต่อสู้ดำเนินไปเรื่อยๆคารินก็เริ่มสังเกตเห็นว่าทั้งๆที่ดันโซ โดนคาถาเต็มๆนั้น แต่ก็ยังไม่ตาย การปิดดวงตาที่แขนของดันโซในแต่ละครั้งจะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน คารินจึงพยายามสังเกตและวิเคราะห์วิชาของดันโซไปเรื่อยๆ และแล้วคารินก็เริ่มเข้าใจความลับของคาถานี้และพยายามบอกให้ซาสึเกะรู้แต่ซา สึเกะกลับรู้ก่อนแล้ว และแล้วซาสึเกะก็สามารถชนะดันโซได้ 


แต่ซาสึเกะก็เหน็ดเหนื่อยเช่นกันคารินจึงเข้ามาช่วยดูแล แต่ในจังหวะนั้นดันโซก็ได้จับคารินเป็นตัวประกัน แต่ซาสึเกะไม่สนใจกลับใช้พันปักษาที่แปลงคุณสมบัติให้เป็นดาบแทงคารินทะลุ ดันโซอย่างโหดร้าย ซาสึเกะคิดที่จะฆ่าคารินแต่ในจังหวะนั้นซากุระก็ปรากฏตัวขึ้นและเกิดการ ต่อสู้กันขึ้นแต่การต่อสู้ครั้งนี้ก็ต้องหยุดไปก่อน เพราะโทบิมาพาตัวซาสึเกะกลับไป ส่วนคารินก็ได้รับการรักษาจากซากุระและนำตัวกลับโคโนะฮะเพื่อสืบสวนเกี่ยว กับซาสึเกะและแสงอุษาต่อไป

ประวัติ ซุยเก็ตสึ



โฮซุกิ ซุยเกตสึ ( 水月 )


ชื่อ : Hoozuki Suigetsu - โฮซุกิ ซุยเกตสึ
อายุ : 16
วันเกิด : 18 กุมภาพันธ์
ส่วนสูง : 177.4
น้ำหนัก : 57
กรุ๊ปเลือด : B
หมายเลขทะเบียนนินจา : -
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : N/A
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : ตอนที่346
หมู่บ้าน : คิริงาคุเระ
ระดับ : -
ความหมายของชื่อ : Hou=ทะเลสาบสีแดงเข้ม, ต้นโคมส้ม, Zuki=ต้นกำเนิดความร้อน, ผู้ต่อต้านแห่งแสง, Sui=น้ำ, Getsu=ดวงจันทร์

ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : อุจิวะ ซาสึเกะ, คาริน, จูโกะ, คิลเลอร์บี (แปดหาง), โอโรจิมารุ, โฮชิงาคิ คิซาเมะ, ซาบุสะ

จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ :
ระดับต่ำ (D-Rank) : 2
ระดับทั่วๆไป (C-Rank) : 33
ระดับสูง (B-Rank) : 40
ระดับสูงมาก (A-Rank) : 13
ภารกิจขั้นเทพ (S-Rank) : 4

ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน : ?
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : ?
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : ?

ข้อมูลตัวละคร

โฮซุกิ ซุยเกตสึ เป็นน้องของโฮซุกิ มันเกตสึ และเป็นอดีตนินจาจากหมู่บ้านคิริงาคุเระ ผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็น1ใน7ดาบนินจาแห่งคิริงาคุเระ ปรากฎตัวครั้งแรกออกมาจากที่คุมขังในรังลับของโอโรจิมารุ ในสภาพที่ถูกกักขังเอาไว้ในหลอดและตัวซุยเกตสึเองก็อยู่ในสภาพของเหลวเหมือน น้ำ ซึ่งเป็นลักษณะความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของซุยเกตสึเองด้วยที่สามารถสลายร่าง กายตัวเองให้กลายเป็นน้ำและรวมกับน้ำได้ ในตอนแรกที่ปรากฎตัวนั้นซุยเกตสึได้ถูกซาสึเกะปล่อยให้เป็นอิสระภายหลังที่ โอโรจิมารุพ่ายแพ้ จากนั้นซุยเกตสึได้เข้ามาเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มซาสึเกะ ซึ่งซาสึเกะตั้งชื่อว่า ทีมงู(เฮบิ) พร้อมด้วยสมาชิกอีก 2 คน คือ คารินและจูโกะ ซุยเกตสึได้ดาบใหญ่สะบั้นคอของซาบุสะมาจากหลุมศพที่แคว้นนามิโนะคุนิ และได้ออกเดินทางตามล่า อุจิวะ อิทาจิ ซึ่งเป็นเป้าหมายแรกร่วมกับซาสึเกะ โดยที่ตัวเขาเองมีเป้าหมายที่แท้จริง คือ การได้ปะทะกับหนึ่งสมาชิกแสงอุษาและเป็นอดีตสมาชิกของ 7 ดาบนินจาแห่งคิริงาคุเระอย่างโฮชิงาคิ คิซาเมะ และนอกจากนั้นก็คือ การไปประมือกับสมาชิกของกลุ่ม 7 ดาบที่เหลือ

เมื่อเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง กลุ่มเหยี่ยวก็ได้พบกับคิซาเมะที่มาขวางทางสมาชิกกลุ่มไว้ เพื่อให้ซาสึเกะไปเจอกับอิทาจิ ซุยเกสึได้ปะทะกับคิซาเมะสมความตั้งใจ แต่ก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะก็ต้องเลิกรากันไปก่อน ประกอบกับซาสึเกะเอาชนะอิทาจิได้และถูกมาดาระ ซึ่งปลอมตัวเป็นโทบิมาตลอดมาชักชวนเข้าร่วมกับแสงอุษา ซาสึเกะที่ได้ฟังเรื่องของพี่ชายจากมาดาระเลยเข้าร่วมและทีมงูก็เปลี่ยนชื่อ เป็น เหยี่ยว 
หลังเข้าร่วมทีมเหยี่ยวได้รับภารกิจแรกคือ ไปจับพลังสถิตย์ร่างแปดหางที่มีฉายาว่า คิลเลอร์บี ซึ่งตัวจริงคือ น้องชายของไรคาเงะแห่งคุโมะงาคุเระ ทั้งหมดเดินทางตามหาจนเจอ เมื่อเจอก็ต่อสู้กัน ซุยเกสึเป็นคนแรกที่เข้าไปประมือ แต่ก็พ่ายกลับมา จนซาสึเกะต้องลงมือเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก สุดท้ายแปดหางก็เผยร่างสัตว์หางออกมา ไล่ต้อนทั้งทีมจนทุกคนต้องล่าถอย จังหวะสุดท้ายซุยเกสึได้สลายตัวเองและรวมร่างกับน้ำ สร้างกำแพงน้ำขนาดมหึมาขึ้นมาเพื่อขวางการโจมตีของแปดหางและช่วยเพื่อนจนตัว เองหมดสติ แต่ก็เปิดโอกาสให้ซาสึเกะใช้เทวีสุริยากับแปดหางจนสามารถจับกุมได้ 



ประวัติ กลุ่มเหยี่ยว

กลุ่มเหยี่ยว(ทากะ) ในอดีตคือกลุ่มงู(เฮบิ) ซึ่งคือการรวมตัวกันของสมาชิกระดับท็อปที่เคยเป็นนินจาใต้บังคับบัญชาของโอโรจิมารุ นำโดย อุจิวะ ซาสึเกะ และมีผู้ติดตามอีกสามคนคือ ซุยเง็ตสึ คาริน และจูโกะ โดยจุดมุ่งหมายเดิมของกลุ่มงูคือการออกตามล่าอุจิวะ อิทาจิ จนกระทั่งซาสึเกะสามารถสังหารอิทาจิได้สำเร็จ แต่ภายหลังจากที่ซาสึเกะได้รับฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับอิทาจิจาก อุจิวะ มาดาระ ภายใต้หน้ากากของโทบิ ทำให้ซาสึเกะก็ตัดสินใจนำพาพรรคพวกเข้าร่วมกับแสงอุษาในนามกลุ่มเหยี่ยว และเปลี่ยนมาใช้ชุดฟอร์มเสื้อคลุมแบบแสงอุษาแต่ยังคงเอกลักษณ์ให้เห็นถึงความแตกต่างบางส่วนไว้ รวมทั้งซาสึเกะได้พูดกับเพื่อนทั้งสามคนไว้ในเนื้อเรื่องว่าเป็นเพียงการเข้าร่วมเพื่อใช้ประโยชน์จากแสงอุษาเท่านั้น

ประวัติ ยามาโตะ เท็นโซ




เท็นโซ
ชื่อภาษาญี่ปุ่นยามาโตะ
โรมะจิYamato
ปรากฎตัวตอนแรก34 (*ภาค 2)
สังกัดสายลับ
อาจารย์{{{อาจารย์}}}
วันเกิด ?
กรุ๊ปเลือด ?

                                                                             

ประวัติของยามาโตะ

สมาชิกของหน่วยลับ (ANBU) ที่ได้รับคำสั่งจากซึนาเดะ ให้เป็นหัวหน้าทีมแทนคาคาชิ ในขณะที่คาคาชิรับการรักษาตัวจากการต่อสู้ และได้รับโค้ดแนมแทนชื่อว่า ยามาโตะ ภาระกิจที่ได้รับคือการจับตาดูซาอิ และไปพบกับสายสืบของซาโซริที่ทำงานอยู่กับโอโรจิมารุ เมื่อถอดหน้ากากหน่วยลับของยามาโตะออก หน้าตาของยามาโตะมีส่วนคล้ายกับโฮคาเงะรุ่นที่ 1 รวมทั้งหมวกป้องกันศีรษะก็คล้ายของโฮคาเงะรุ่นที่ 2 ด้วย


เมื่อภาระกิจเริ่มขึ้นความสามารถของยามาโตะเริ่มเป็น ที่สงสัยของซากุระ นั่นเป็นเพราะยามาโตะสามารถใช้วิชานินจาไม้ได้ เมื่อพบกับสายสืบของซาโซริ นั่นคือ คาบูโตะ ที่กลับใจมาทำงานให้กับโอโรจิมารุแล้ว คาบูโตะโจมตียามาโตะแต่ยามาโตะก็สามารถหลบได้เช่นกัน ทำให้โอโรจิมารุปรากฏตัวออกมา เมื่อโอโรจิมารุพบยามาโตะเข้าจึงทำให้ที่มาของความสา มารถของยามาโตะก็ได้ปรากฏออกมา นั่นเป็นเพราะว่า ยามาโตะเป็นเด็กที่รอดชีวิตจากการทดลองของโอโรจิมารุ ในการถ่ายยีนของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ลงไปในร่างทารกทั้ง 60 คน ในขณะที่โอโรจิมารุยังอยู่ที่โคโนะฮะ ทำให้ยามาโตะมาความสามารถเหมือนโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ภารกิจจบลงที่นารุโตะในร่าง 4 หางอาละวาดจะเข้าสู้กับโอโรจิมารุ จนทำให้โอโรจิมารุหมดแรง แต่นารุโตะก็ต้องถูกยามาโตะใช้พลังของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ควบคุมพลังของสัตว์หางเช่นกัน เมื่อกลับจากภาระกิจ ยามาโตะเป็นกำลังสำคัญในการฝึกวิชาใหม่ของนา รุโตะเพราะยามาโตะต้องคอยควบคุมพลังของสัตว์หางให้ นารุโตะเสมอ ซึ่งในการฝึกนี้เองทำให้ชื่อที่จริงของ ยามาโตะปรากฏนั่นคือ “เท็นโช” แต่ก่อนที่วิชาใหม่ของนารุโตะจะสำเร็จ คาคาชิผู้ที่คอยสอนนารุโตะตลอดการฝึกวิชากลับต้องรับ หน้าที่หัวหน้าทีม10 แทนอาสึม่า และปล่อยให้นารุโตะต้องฝึกวิชากับยามาโตะกันเพียงลำพัง ภายหลังก่อนที่คาคาชิและสมาชิกทีม10 (ยกเว้น ชิกามารุ) จะพลาดท่าให้กับคาคุซึ ยามาโตะและนารุโตะก็เข้ามาช่วย ไว้ได้ทัน ผลการต่อสู้ครั้งนั้นจบลงด้วยความตายของคาคุซึโดยวิช าใหม่ของนารุโตะ หลังจากนั้นทีมของยามาโตะก็ต้องรับภารกิจใหม่อีกครั้ ง นั่นคือภารกิจตามหาอุจิฮะ ซาสึเกะ โดยภารกิจครั้งนี้ทีมของยามาโตะทำภารกิจร่วมกับทีม8 ซึ่งมีหัวหน้าทีมคนใหม่คือ คาคาชิ ในขณะที่ทั้งสองทีมช่วยกันหาข่าวแล้วไล่ตามซาสึเกะอยู่นั้น ทั้งหมดก็ได้พบกับโทบิที่เข้ามาขวางไว้ หลังจากี่ผ่านภารกิจนี้ไปแล้ว ยามาโตะกับคาคาชิก็พานารุโตะไปหาไรคาเงะเพื่ออ้อนวอนให้ยกโทษให้ซาสึเกะ ต่อมาเมื่อกบยักษ์ได้บอกให้นารุโตะไปหาแปดหาง ยามาโตะได้ตามไปด้วย ในช่วงนั้น คาบูโตะและเดอิดาระ(คาถาสัมพเวสีคืนชีพ)ได้โจมตีพวกนารุโตะ โดยทุกคนเพิ่งรู้ว่าที่ที่ทุกคนอยู่ไม่ได้เป็นเกาะ แต่เป็นเต่ายักษ์ ในช่วงที่มาดาระตามล่านารุโตะและคิลเล่อบี ยามาโตะได้ไปสอดแนมพวกมาดาระ แต่ถูกคาบูโตะจับได้แล้วถูกมาดาระรีดจักระโฮคาเงะรุ่นที่1ออก เพื่อนำพลังไปให้เซ็ตสึขาว

กองทัพเรือ





กองทัพเรือ
 จากการ์ตูนเรื่อง
วันพีซ เป็นองค์กรขนาดใหญ่ในโลกวันพีซ มีระบบผสมของ ทหารบกและทหารเรือเข้าด้วยกัน แบบกองเรือยุทธการ และกองบัญชาการนาวิกโยธิน อยู่ในสังกัดเดียวกัน โดยทหารในสังกัดเป็นทั้งทหารเรือที่ต่อสู้ทางน้ำและเป็นนาวิกโยธินต่อสู้ทางบก กองทัพเรือมีฐานทัพอยู่ทั่วโลกและมีกองบัญชาการใหญ่เรียกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่แมรี่จัวร์ (Marijois) โดยกองทัพเรือนี้เป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลโลกอีกที กระนั้นกองทัพเรือเองก็เป็นหนึ่งในสามขั้วอำนาจที่ยิ่งใหญ่บนโลก คานอำนาจกันกับ เจ็ดเทพโจรสลัดและ สี่จักรพรรดิ

การลำดับยศของทหารเรือตามเขตทะเล
กองทัพเรือในเรื่องวันพีซนั้น จะมีการลำดับยศระหว่างในแกรนไลน์และทะเลอื่นๆต่างกัน โดยที่ทหารเรือที่อยู่ในแกรนไลน์หรือถูกส่งมาจากศูนย์บัญชาการใหญ่โดยตรง จะมียศมากกว่าทหารเรือในทะเลอื่นนอกเขตแกรนไลน์ 3 ขั้น เช่นทหารเรือที่มียศเป็น พลตรี ในเขตทะเลอีสต์บลู จะมียศเท่ากับ พันตรี ในแกรนไลน์ ทหารเรือที่มียศเป็น ร้อยเอก ในศูนย์บัญชาการใหญ่ จะมียศเท่ากับ พันเอก ในเวสต์บลู เป็นต้น แต่ในกรณีของสโมกเกอร์ มียศพันเอกในเมืองล็อกทาวน์ เมื่อเข้าแกรนไลน์แล้วยศก็ยังคงเป็นพันเอกอยู่ เนื่องจากถูกส่งมาจากศูนย์บัญชาการใหญ่โดยตรง

คำสั่งบัสเตอร์คอล
คำสั่งบัสเตอร์คอล คือคำสั่งในการทำลายล้างเกาะที่เป็นเป้าหมาย โดยผู้ที่ออกคำสั่งได้มีเพียงพลเอกและจอมพลเท่านั้น โดยมีหลักการทำงานคือ ผู้ที่ออกคำสั่งจะต้องเป็นผู้ครอบครองแมลงโทรสารทองคำ(Golden Den Den Mushi) เมื่อต้องการออกคำสั่งก็กดปุ่มที่แมลงโทรสาร แล้วจะทำการส่งคลื่นโทรสารติดต่อไปยังเครื่องรับสัญญาณ แมลงโทรสารเงิน(Silver Den Den Mushi) ที่อยู่ในศูนย์บัญชาการกองทัพเรือ เพื่อระดมกองทัพเรือรบ นำโดยพลโท 5 คน จะมุ่งหน้ามาที่เกาะที่ผู้ออกคำสั่งอยู่ รับตัวเจ้าหน้าที่รัฐบาล ทหารเรือ และผู้บริสุทธิ์ออกจากเกาะ แล้วเริ่มการระดมยิงปืนใหญ่ใส่เกาะเป้าหมาย เพื่อทำลายล้างให้สิ้นซาก(ปืนใหญ่ของกองทัพ ที่ใช้ในคำสั่งบัสเตอร์คอล จะมีอานุภาพทำลายล้างสูงกว่าแบบปกติ) เท่าที่ปรากฏในเรื่อง เคยมีเกาะที่ถูกคำสั่งบัสเตอร์คอลอยู่ 2 เกาะ คือ เกาะโอฮารา เนื่องจะมีนักวิชาการในเกาะจำนวนมาก ศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่า และเกาะเอนิเอส ล็อบบี้ เนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดจากกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ตระกูลแฟรงกี้ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล CP9

ทหารเรือตามลำดับยศชั้นสัญญาบัตร
จอมพลเรือ





จอมพลเรือ (元帥, Gensui, English:Fleet Admiral) คือตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพ

เซ็นโงคุ(センゴク, Sengoku?) ถูกเรียกว่าพระพุทธองค์แห่งกองทัพเรือ
 ปรากฏตัวพร้อมแกะที่เป็นสัตว์เลี้ยง
และยังมีนกนางนวลเกาะอยู่บนหัวในลักษณะกางปีกแบบเดียวกับสัญลักษณ์บนธงของกองทัพเรือ
เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในกองทัพเรือ และเป็นผู้ติดต่อโดยตรงกับ ห้าผู้คุมกฏ ของรัฐบาลโลก 

พลเรือเอก

พลเรือเอก (大将, Taishō?)(大将, Taishō, English:Admiral)
ทหารชั้นสูงสุดของกองทัพเรือ มีอยู่เพียงสามคนและมีฝีมือสูงมาก นอกจากจอมพลเรือแล้ว
พลเรือเอกยังสามารถออกคำสั่งบัสเตอร์คอลได้ด้วย


พลเรือเอก 
อาโอคิยิ
 (青キジ, Aokiji) แปลว่า ไก่ฟ้าคราม (Blue Pheasant) เดิมชื่อพลเรือโท คุซัง ชื่ออาโอคิยินั้นแท้จริงเป็นเพียงฉายา หลังจากได้เลื่อนตำแหน่งในฐานะพลเรือเอกแห่งกองทัพเรือ กินผลปีศาจสายโรเกีย เป็นมนุษย์เยือกน้ำแข็ง

พลเรือเอก 
อาคาอินุ (赤イヌ, Akainu) แปลว่า หมาแดง (Red Dog) เดิมชื่อพลเรือโท ซากะซูกิ และเช่นเดียวกับอาโอคิยิที่ ซากะสุกิ เมื่อเป็นพลเรือเอกก็ได้รับฉายา อะคะอินุ แห่งกองทัพเรือ กินผลปีศาจ สายโรเกีย เป็นมนุษย์แม็คม่า สามารถต่อยเป็น ลาวาร้อนๆได้เหมือน ภูเขาไฟระเบิด สร้างแมคม่าและลาวาปรากฏตัว

พลเรือเอก 
คิซารุ (黄サル, Kisaru)







แปลว่า วานรเหลือง (Yellow Monkey) เดิมชื่อพลเรือโท โบร์ซาลิโน่
ก่อนจะขึ้นเป็นพลเรือเอก กินผลปีศาจสายโรเกีย พิกะ พิกะ เข้าไปทำให้เป็นมนุษย์ลำแสง




พลเรือโท

พลเรือโท (中将, Chūjō, English:Vice Admiral)
พลเรือโท มังกี้ ดี กาฟ (モンキー・D・ガープ, Monkī D. Gāpu)
 
เป็นปู่ของลูฟี่ และเป็นพ่อของดราก้อน พลเรือโทกาฟเป็นคนเลี้ยงดูลูฟี่กับ
เอสเมื่อครั้งยังเด็ก และยังเป็นคนช่วยฝึกฝนการต่อสู้ให้ โคบี้ และเฮลเมปโปะ ด้วย ได้ฉายาว่าจอมพลัง มีแรงมหาศาลขนาดขว้างลูกปืนใหญ่ได้เหมือนลูกเบสบอล และเหวี่ยงลูกตุ้มเหล็กขนาดเท่าเรือได้อย่างไม่สะทกสะท้าน และยังเป็น วีรบุรุษแห่งกองทัพเรือ (จอมพลเรือเซนโงคุได้พูดไว้ในมังงะตอนหนึ่ง)
พลเรือโท ซึรุ (つる Tsuru)

ได้รับฉายาเป็นจอมวางแผน (大参謀 Dai-Sanbō) แห่งกองทัพเรือและเป็นผู้ที่จดจำบรรดาอาชญากรทั่วโลกได้เป็นอย่างดี พลเรือโทซึรุปรากฏตัวในการประชุมร่วมกับเจ็ดเทพโจรสลัด
พลเรือโท โคเมียร์ (コーミル Kōmiru, English:Komir)

ปรากฏตัวในมินิซีรีส์เปิดตอนในช่วงของ
เอส บางทีชื่อของเขาสะกดว่า โคมิล (Comil) เนื่องจากความสับสนในตัวคาตาคานะ
พลเรือโท จอห์น ไจแอนท์ (ジョン・ジャイアント Jon Jaianto)
 

ปรากฏตัวตอนประกาศค่าหัวของลูฟี่ เป็นพลเรือโทที่ทำงานอยู่ส่วนกลางของกองทัพเรือ
พลเรือโท โจนาธาน
เป็นคนสนิทของพลเรือเอกอะคะอินุ ผู้บัญชาการของป้อมปราการที่พวกลูฟี่ตกลงไป ปรากฏตัวในภาคอะนิเมะ
พลเรือโท โมมองก้า

เป็นพลเรือโทที่ไปเชิญชวนโบอา แฮนค๊อก หนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด เข้าร่วมในสงครามระหว่างรัฐบาลกับหนวดขาว และเขายังเป็น 1 ใน 5 พลโท ที่เข้าร่วมเหตุการณ์"บัสเตอร์คอล"ที่เอนิเอสล๊อบบี้ด้วย


 พลเรือตรี

พลเรือตรี (少将, Shōshō, English:Rear Admiral)

 พลเรือจัตวา

พลเรือจัตวา (准将, Junshō, English:Commodore)
พลเรือจัตวา สโมคเกอร์ (スモーカー, Sumōkā)

ปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะนาวาเอกสโมคเกอร์ เข้าสู่กองทัพเรือรุ่นเดียวกับคุณหนูฮินะ และสโมคเกอร์ยังเคยเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ประหารเจ้าแห่งโจรสลัด
โกล ดี โรเจอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โกลด์ โรเจอร์ด้วย ปัจจุบันเดินเรือเฝ้าติดตามการเดินเรือของกลุ่มหมวกฟาง สโมคเกอร์เป็นคนที่มักจะทำอะไรตามใจตัวเองและมักจะฝ่าฝืนคำสั่งของกองทัพเรือเสมอ
พลเรือจัตวา ปุริน ปูริน (プリンプリン Purinpurin) Pudding Pudding
เป็นคนที่คิดจะมาปราบกลุ่มโจรสลัดเงือกอารอน แต่ถูกทำลายเรือทิ้งและทำให้ดูเหมือนอุบัติเหตุเรือล่มเพราะพายุ



พลเรือจัตวา เนลสัน (ネルソン提督, Neruson Teitoku)
 Commodore Nelson
ปรากฏตัวในภาคอะนิเมะ เป็นทหารเรือที่อยู่ในทะเลอีสต์บลู เขาออกตามหามังกรพันปีเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวบางอย่าง


นาวาเอก

นาวาเอก (大佐, Taisa, English:Captain)
นาวาเอก เนซูมิ (ネズミ Nezumi)

เป็นทหารเรือกังฉิน รับเงินใต้โต๊ะจากโจรสลัด
อารอนเพื่อทำเป็นเพิกเฉยต่อการกระทำชั่วของกลุ่มโจรสลัดเงือก
 และยังคิดจะฮุบเงินทั้งหมดที่นามิหามาหลังการพ่ายแพ้ของอารอน
นาวาเอก ฮินะ (ヒナ Hina)


ปกติมักจะถูกเรียกว่าคุณหนูฮินะ เข้าสังกัดกองทัพเรือรุ่นเดียวกับสโมคเกอร์
 มีอีกฉายาหนึ่งว่า กรงดำฮินะ (黒檻のヒナ Kuro-Ori no Hina) เนื่องจากความสามารถของผลปีศาจ
นาวาเอก ทีโบน (Tボーン Tī-Bōn)


ฉายาจอมตัดเรือ เคยเป็นอัศวินไนท์ของราชอาณาจักรแห่งหนึ่งก่อนเข้าสังกัดกองทัพเรือ
 ปรากฏตัวในช่วงที่รถไฟเดินทะเล เดินทางจากวอเตอร์เซเว่นไปยังเอนิเอส ล็อบบี้
นาวาเอก เวรี่ กู๊ด เป็นทหารที่เข้าร่วมคำสั่งทำลายเอนิเอส ล็อบบี้ด้วยบัสเตอร์คอลเพื่อกำจัดพวกหมวกฟาง
นาวาเอก ชู เป็นทหารที่เข้าร่วมคำสั่งทำลายเอนิเอส ล็อบบี้ด้วยบัสเตอร์คอลเพื่อกำจัดพวกหมวกฟาง เป็นคนที่ทำลายดาบของโซโลไป 1 เล่มด้วยพลังทำให้เป็นสนิมซึ่งเป็นความสามารถของผลปีศาจ
นาวาเอก ชาริงงุ เป็นทหารที่เข้าร่วมคำสั่งทำลายเอนิเอส ล็อบบี้ด้วยบัสเตอร์คอลเพื่อกำจัดพวกหมวกฟาง
นาวาเอก อัตต้าจัง (アタっちゃん, Atatchan) เป็นผู้กำกับดูแลกองกิจการถ่ายภาพของกองทัพเรือที่คอยออกไปถ่ายภาพโจรสลัดมาทำใบประกาศค่าหัว ปรากฏตัวในตอนที่ออกมารับผิดชอบการถ่ายภาพใบประกาศค่าหัวของซันจิผิดพลาดเพราะลืมเปิดหน้ากล้อง ได้รับการเปิดเผยชื่อใน SBS ฉบับที่ 24
นาวาเอก มัวร์ (Moor) ปรากฏตัวในอะนิเมะ ตอนที่ 136 ช่วงเกาะแพะซึ่งเป็นช่วงตอนเสริม

 นาวาโท

นาวาโท (中佐, Chūsa, English:Commander)
นาวาโท ริปเปอร์ เป็นทหารเรือในสังกัดของผู้พันมอร์แกน และเป็นคนที่รับโคบี้เข้าเป็นทหารเรือหลังการล่มสลายของการปกครองอย่างเผด็จการของมอร์แกน
นาวาโท เชพเพิร์ด เป็นทหารเรือจากส่วนกลาง ปรากฏตัวในภาคอะนิเมะ

นาวาตรี

นาวาตรี (少佐, Shōsa, English:Lieutenant Commander)
นาวาตรี แบรนด์นิว เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลการประกาศค่าหัว และเป็นคนที่แจ้งข่าวการประกาศค่าหัวลูฟี่ในช่วงล็อกทาวน์ เมืองที่สังหารเจ้าแห่งโจรสลัด

เรือเอก

เรือเอก (大尉, Taii, English:Lieutenant)
เรือเอก เดรค (Drake) เป็นทหารเรือที่ปรากฏตัวออกมาในภาคมูฟวี่และมีจุดประสงค์ไล่ล่ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เรือเอกเดรคเป็นคนละคนกับ กัปตันโจรสลัด เอ็กซ์ เดรคซึ่งเคยเป็นทหารเรือมาก่อนเช่นกัน
เรือเอก กัฟเวิร์นเนอร์ (Governor) ปรากฏตัวในรายการพิเศษ "third TV special:Protect! The Last Great Performance"

 เรือโท

เรือโท (中尉, Chūi, English:Lieutenant Junior Grade)
เรือโท เฮ็กซากอน (โรคาคุ) (ロッカク, Rokkaku) เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมอร์แกน เขาปฏิเสธที่จะฆ่าริกะและถูกฟันโดยมอร์แกนข้อหาขัดขืนคำสั่ง

 เรือตรี

เรือตรี Ensign (少尉, Shōi?)
เรือตรี ทาชิงิ (たしぎ, Tashigi)

ปรากฏตัวในยศพันจาเอก และได้เลื่อนชั้นมาเป็นเรือตรี เป็นทหารเรือในสังกัดของสโมคเกอร์ มีความรู้เรื่องดาบมากเป็นพิเศษ และตั้งใจจะเอาชนะคนชั่วและรวบรวมดาบที่เป็นตำนานกลับคืนมา ทาชิงิมีหน้าตาที่คล้ายกับเพื่อนสนิทในสมัยเด็กของโซโลที่เสียชีวิตไปทำให้โซโลรู้สึกไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้ทาชิงิมาก
เรือตรี มัคโก้ ทหารเรือในสังกัดของคุณหนูฮินะ ปรากฏตัวในช่วงที่ฮินะพยายามจับกุมกลุ่มโจรลัดหมวกฟางและมิสเตอร์ทู บอน เครย์

 ทหารเรือตามลำดับยศชั้นประทวน

 พันจ่าเอก

พันจ่าเอก (准尉, Jun'i, English:Warrant Officer)

 พันจ่าโท

พันจ่าโท (曹長, Sōchō, English:Master Chief Petty Officer)
Image
พันจ่าโท โคบี้

เป็นคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากลูฟี่ให้หนีออกมาจากการเป็นเด็กรับใช้ของโจรสลัดหญิง เลดี้ อัลบีด้า
และเข้าเป็นทหารในสังกัดกองทัพเรือ ภายหลังพลเรือโทกราฟรับไปดูแลในสังกัดและฝึกฝนวิชาให้จนสามารถใช้
 ความสามารถทั้งหก ได้1อย่างคือการเคลื่อนที่เร็ว

 พันจ่าตรี

พันจ่าตรี (軍曹, Gunsō, English:Chief Petty Officer)
พันจ่าตรี เฮลเมปโปะ ลูกชายของผู้พันมอร์แกน เดิมเป็นคนที่ไม่เอาไหนและอวดเบ่งใต้บารมีของพ่อ ภายหลังจากการปกครองของมอร์แกนล่มสลายลง เฮลเมปโปะถูกนาวาโท ริปเปอร์ พาเข้าเป็นทหารเรือ และได้สนิทสนมกับโคบี้จนเป็นเพื่อนกัน และได้เข้าสังกัดของพลเรือโทกราฟพร้อมกับโคบี้อีกด้วย
พันจ่าตรี มินชิ (Minchi) ทหารเรือในสังกัดของกัปตันมัวร์ ปรากฏตัวในภาคอะนิเมะ

จ่าเอก

จ่าเอก (伍長, Gochō, English:Petty Officer)
จ่าเอก ไชน์ (Shine) ทหารเรือในสังกัดหน่วยของฮินะ
จ่าเอก มาชิคาคุ (Masshikaku) ทหารเรือที่อยู่กับสโมคเกอร์และทาชิงิที่ล็อกทาวน์ ก่อนสโมคเกอร์จะออกเดินทางติดตามจับกลุ่มหมวกฟาง

พลทหาร

พลทหาร (一等兵, Ittōhei, English:Seaman)
พลทหาร ไลน์ส ทหารในสังกัดเดิมของฟูลบอดี้ตอนยังเป็นเรือเอก และเป็นคนที่มารายงานการหลบหนีของกิงที่ปลอมเป็นกัปตันโจรสลัดครีก ที่ภัตตาคารลอยทะเลบาราติเอ ให้ฟูลบอดี้รู้

 พลทหารฝึกหัด

พลทหารฝึกหัด (三等兵, Santōhei, English:Seaman Recruit)
พลทหาร ฟูลบอดี้ (フルボディ Furubodi) เดิมเป็น เรือเอก แห่งกองทัพเรือ ฉายาหมัดเหล็กฟูลบอดี้ แต่ถูกลดลำดับยศลงมาเป็นพลทหารฝึกหัดชั้นประทวนด้วยความต้องการของเจ้าตัวเอง เพื่อรับรองให้ จังโก้ อดีตรองกัปตันโจรสลัดกลุ่มคุโรเนโกะเข้าเป็นทหารเรือเพราะความสนิทสนมกันหลังจากได้ร่วมกันต่อสู้ แลกกับการถอดยศ และเข้าสังกัดในหน่วยของคุณหนูฮินะ
พลทหาร จังโก้ (ジャンゴ三, Jango)
 
อดีตเคยเป็นโจรสลัดและรักษาการณ์ตำแหน่งกัปตันกลุ่มคุโระเนโกะมาก่อน มีความสามารถในการสะกดจิต เคยมีค่าหัว 9,000,000เบรีและยังไม่มีการยืนยันถึงการยกเลิกค่าหัวแต่กองทัพเรือดูเหมือนจะแกล้งทำเป็นลืมไว้ก่อน และได้เข้าเป็นทหารเรือในสังกัดของคูณหนูฮินะ โดยการรับรองของฟูลบอดี้

ทหารรับใช้

ทหารรับใช้ (雑用, Zatsuyō, English:Chore Boy)

อื่นๆ

ทหารเรือบางคนปรากฏตัวมาในอดีต และปัจจุบันไม่ทราบว่าอยู่ในลำดับยศใด หรือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
พลเรือโท ผู้ประสานงานในครั้งใช้บัสเตอร์คอลถล่มเกาะเอนิเอสล็อบบี้
  • พลเรือโท สตอเบอรี่ (ストロベリ, Sutoroberi)
  • พลเรือโท ยามะคาจิ (ヤマカジ, Yamakaji)
  • พลเรือโท โดเบอร์แมน (ドーベルマン, Dōberuman)
  • พลเรือโท โอนิงุมะ (オニグモ, Onigumo)
  • พลเรือโท โมมองก้า (モモンガ, Momonga)
พลเรือโท ผู้ประสานงานในครั้งใช้บัสเตอร์คอลถล่มเกาะโอฮารา
  • พลเรือโท ซากะซุกิ หรือพลเอกอาคะอินุในปัจจุบัน
  • พลเรือโท คุซัง หรือพลเอกอาโอคิยิในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีทหารเรือจำนวนมากที่ปรากฏตัวออกมาโดยยังไม่ทราบชื่อหรือลำดับชั้น มีเท่าที่พอทราบชื่อ เช่น
  • โบการ์ท (Bogart) เป็นทหารเรือ ทส. ของ พลเรือโท มังกี้ ดี กราฟ ไม่ทราบลำดับยศแน่ชัด
  • แดดดี้ มาสเตอร์สัน พลแม่นปืนพิสัยไกล ของกองทัพเรือ ภายหลังไปเป็นนักล่าคาหัว ในอดีตเคยแพ้การดวลความแม่นให้ยาซป โจรสลัดในกลุ่มผมแดง พ่อของอุซป ภายหลังได้พบกับอุซปที่ล็อกทาวน์และยังเข้าทดสอบความสามารถของอุซปด้วย
  • อิโซกะ ปรากฏตัวในตอนเสริมภาคอะนิเมะ เป็นทหารระดับสูงแต่ไม่ปรากฏลำดับยศที่ชัดเจน
  • ราปานุย ปาสค์ (Rapanui Pasqua) ปรากฏตัวในช่วงเดียวกับ อิโซกะ พยายามจับกุมลูฟี่ที่เกาะ รูลูก้า
  • โทมะ (Touma) ปรากฏตัวในภาคมูฟวี่ เป็นทหารที่ใช้ดาบเป็นอาวุธ แพ้ให้กับนามิและช็อปเปอร์

อดีตทหารเรือ

คือผู้ที่ถูกปลดเพราะทำชั่วหรือหักหลังกองทัพ หรือเสียชีวิตแล้ว
พลเรือโท แฮควาร์ ดี เซาโล (ハグワール・D・サウロ Haguwāru D Sauro, English:Jaguar D. Saul) ปรากฏตัวในช่วงย้อนอดีตของ นิโค โรบิน เซาโลเป็นอดีตพลเรือโท ที่ถอนตัวจากกองทัพและช่วยให้โรบินหนีรอดจากบัสเตอร์คอลที่โอฮาราไปได้แต่ตัวเองต้องจบชีวิตลงที่นั่น เซาโลเป็นคนสอนโรบินสมัยเด็กให้หัวเราะและร่างเริงเข้าไว้โดยการหัวเราะแปลกๆว่า "เดเลชิ เดเลชิ" ซึ่งเป็นภาษาของเขา
พลเรือตรี เดรค ปัจจุบันคือ เอ็กซ์ เดรค กัปตันกลุ่มโจรสลัดที่ค่าหัวถึง 222,000,000 เบรี อดีตเคยเป็นทหารเรือยศพลเรือตรีมาก่อน เป็นคนละคนกับเรือเอกเดรค
นาวาเอก มอร์แกน ฉายามือขวานมอร์แกน เป็นพ่อของเฮลเมปโปะ
 

ในอดีตเป็นทหารเรือในกลุ่มที่เข้าปะทะกับกลุ่มโจรสลัดคุโระเนโกะ และแม้จะถูกทำร้ายสาหัส คางหักจนต้องใส่คางปลอมภายหลัง แต่เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่รอดจากการสังหารโหดของ
กัปตัน คุโระ กลุ่มโจรสลัดคุโระเนโกะ และถูกจังโก้สะกดจิตให้เชื่อว่าเป็นผู้ที่จับตัวกัปตันคุโระได้พร้อมกับส่งกัปตันตัวปลอมกลับไปฐานทัพเรือ และได้เลื่อนขึ้นเป็นนาวาเอก เขาเข้าปกครองเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในอิสต์บลูอย่างเผด็จการและถูกล้มโดยลูฟี่ และถูกเปิดโปงความชั่วร้ายในที่สุด พลโทกราฟเป็นคนมารับตัวมอร์แกนในฐานะนักโทษ แต่มอร์แกนหนีการจับกุมไปไดโดยจับเฮลเมปโปะลูกชายตัวเองเป็นตัวประกันและได้รับการช่วยเหลือไว้โดยโคบี้และพลโทกราฟ
นายพล กัสปาเด้ (ガスパーデ将軍, Gasupāde-Shōgun, English:General Gasparde) เป็นอดีตทหารเรือที่หักหลังกองทัพไปเป็นโจรสลัด และถูกตั้งค่าหัวไว้ 95,000,000 เบรี ถูกเรียกว่า นายพล กัสปาเด้ แต่ไม่ทราบยศที่แท้จริงสมัยเป็นทหารเรือ
พลทหาร เบลเมร์ (ベルメール Berumēru; belle-mère) แม่เลี้ยงของนามิกับโนยิโกะ เสียชีวิตเพราะถูกอารอนสังหาร

ก็อด เอเนลู(God Enel)




ก็อด เอเนลู(God Enel)
ก็อดแห่งสกายเปียหรือเกาะแห่งท้องฟ้า เป็นคนที่โหดเหี้ยมและฆ่าคนได้เหมือนกับผักปลา
เป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ เพราะเค้ามีพลังของผลโกโรโกโร่หรือผลสายฟ้า ซึ่งอาจกล่าวได้
ว่าเป็นผลปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเลยก็ว่าได้ สายฟ้ามีทั้งความเร็วและพลังอยู่ในตัวมหาศาล
และยังสามารถประยุกต์ใช้กับสิ่งต่างๆได้อีกด้วย เอเนลูเป็นคนที่ฉลาดมากแถมยังมีพลัง
พิเศษที่เรียกว่า "มันโทร่า"ที่สามารถอ่านใจฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ความแข็งแกร่งของเขา
อาจพอๆกับเจ็ดเทพโจรสลัดเลยกฌว่าได้ เอเนลูมีความฝันอยากจะไปที่แฟรี่วาซ ซึ่งความฝัน
นั้นถูกทำลายลงโดยลูฟี่พระเอกของเรา ซึ่งตอนนี้เอเนลูก็ขึ้นไปอยู่บนดวลจันทร์แล้ว เขาจึง
กลายเป็นก็อดแห่งดวงจันทร์แทน


ท่าไม้ตายต่างๆของเอเนลู



200 ล้านโวลต์ เทพสายฟ้้าอามาูลู



บอลสายฟ้า



บอลสายฟ้า(รูปเพิ่ม)



กองกำลังของเอเนลู



เทยสายฟ้าของญี่ปุ่น มีส่วนที่คล้ายกับเอเนลูด้วย

สโมคเกอร์





สโมคเกอร์



พันเอกแห่งศูนย์บัญชาการกองทัพเรือ ได้กินผลโมคุโมคุ (สายโรเกีย) เข้าไป คาดว่าในอนาคตอันใกล้น่าจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น