กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
ตอนนี้มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน
- มังกี้ ดี ลูฟี่
- โรโรโนอา โซโล
- นามิ
- อุซป
- ซันจิ
- โทนี่ โทนี่ ชอปเปอร์
- นิโค โรบิน
- แฟรงกี้(คาติฟูแลม)
- ฮัมมิ่ง บรู๊ค
- มังกี้ ดี ลูฟี่
- โรโรโนอา โซโล
- นามิ
- อุซป
- ซันจิ
- โทนี่ โทนี่ ชอปเปอร์
- นิโค โรบิน
- แฟรงกี้(คาติฟูแลม)
- ฮัมมิ่ง บรู๊ค
==============================
1.ลูฟี่ กัปตันเรือ กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง และตัวเอกของเรื่อง วันพีซ
**ประวัติ ลูฟี่**
ชื่อ: มังกี้ ดี ลูฟี่
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: กัปตัน
อายุ: 17
ความสูง: 172 cm
วันเกิด: 5 พฤษภาคม
ค่าหัว: 300,000,000 เบรี
ความถนัด: การต่อสู้
ความฝัน: เป็นจ้าวแห่งโจรสลัด
ผลปีศาจ: โกมุ โกมุ [ความสามารถ: มนุษย์ยาง]
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: กัปตัน
อายุ: 17
ความสูง: 172 cm
วันเกิด: 5 พฤษภาคม
ค่าหัว: 300,000,000 เบรี
ความถนัด: การต่อสู้
ความฝัน: เป็นจ้าวแห่งโจรสลัด
ผลปีศาจ: โกมุ โกมุ [ความสามารถ: มนุษย์ยาง]
**ข้อมูลของลูฟี่**
ตอนสมัย ลูฟี่ ยังเด็กๆนั้น ลูฟี่ได้ถูกฝึกฝนโดยการ์ปซึ่งก็คือ พลโทแห่งกองทัพเรือและเป็นปู่ของลูฟี่นั่นเอง เพื่อที่จะทำให้ลูฟี่กลายมาเป็นลูกผู้ชายที่แข็งแกร่งขึ้นและเติบโตมาเป็นทหารเรือที่แข็งแกร่ง แต่เนื่องจากการ์ปไม่สามารถฝึกดูแลให้ลูฟี่ได้มากนักเพราะมีงานอื่นๆต้องทำ ก็เลยฝากให้กับเพื่อนของการ์ปซึ่งก็ให้ลูฟี่ฝึกฝนด้วยกันกับเอส ซึ่งก็คือ พี่ชาย ลูฟี่นั่นเอง
เวลาผ่านไปจนแชงคูสเข้ามายึดเกาะฟัชเชียเป็นฐานชั่วคราว ซึ่งแชงคูสก็คือชายโจรสลัดผมแดงนั่นเอง ลูฟี่นั้นได้เป็นเพื่อนกับแชงคูสและติดใจแชงคูสและชื่นชมแชงคูสเป็นอย่างมาก จนเป็นแรงบรรดาลใจอยากเป็นโจรสลัดกับแชงคูส
ลูฟี่นั้นเพื่อที่จะโชว์ให้พวกแชงคูสได้เห็นว่าเค้าสามารถเป็นโจรสลัดกับพวกแชงคูสได้นั้น เค้าเอามีดแทงเข้าไปที่ด้านล่างตาข้างซ้ายของเขา
ในขณะที่ลูฟี่อยู่กับแชงคูสในผับบาร์นั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาตอนที่ ฮิงุมะ หัวหน้าโจรสลัดภูเขาเข้ามานั่นเอง
ลูฟี่ดันเผลอกินผลปีศาจเข้าไป นั่นก็คือผล โกมุ โกมุ ซึ่งทำให้เค้ากลายเป็นมนุษย์ยางนั่นเอง และผลปีศาจนี้ยังกระทบให้ลูฟี่ไม่สามารถว่ายน้ำได้ ไปตลอดชีวิตอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การที่กินผลปีศาจเข้าไปแล้วนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ลูฟี่คิดเลิกจะเป็นโจรสลัดเลยสักนิด
หลังจากที่ ลูฟี่ นั้นได้โดนลักพาตัวไปโดย ฮิงุมะ เจ้าแห่งทะเลก็โผล่ขึ้นมา พร้อมกับกิน ฮิงุมะ ไป แต่แล้วเจ้าแห่งทะเลก็เตรียมพร้อมที่จะกิน ลูฟี่ เหมือนกัน ลูฟี่ ซึ่งว่ายน้ำไม่ได้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ทว่า..
แชงคูสก็ได้ไปช่วยชีวิตเค้าไว้ และใช้ “จิตคุกคาม” ทำให้เจ้าแห่งทะเลหนีจากไป ซึ่งนั่นเองก็เป็นเหตุการณ์ที่ลูฟี่นั้นจะไม่มีวันลืม เพราะว่าจากการช่วยเหลือลูฟี่ในครั้งนี้ แชงคูสนั้นได้ยอมเสียแขนข้างซ้ายไป!!
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มแชงคูสก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางต่อ แต่ก่อนที่จะออกเดินทางนั้น ลูฟี่ก็ได้ให้คำสัญญากับแชงคูสไว้ว่า จะรวบรวมพรรคพวกที่เก่งไม่แพ้กลุ่มแชงคูส และจะเป็นผู้ค้นพบสมบัติอันล้ำค่าอันดับ 1 ของโลกให้ได้ พร้อมกับ “จะเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด”!!!
ลูฟี่ตัดสินใจที่จะไม่ไปกับแชงคูส และตัดสินใจจะสร้างโจรสลัดของตนเองขึ้นมา
แชงคูสเลยให้หมวกฟางที่เค้ารักและชอบมากให้กับลูฟี่ และรอวันที่ลูฟี่จะเป็นโจรสลัดที่โด่งดังและสามารถเหนือเค้าไปได้ ซึ่งในตอนนั้นเค้าก็จะมาเอาหมวกฟางกลับนั่นเอง
10 ปีผ่านไป... ลูฟี่ได้เติบโตขึ้นมามากแล้ว และในที่สุดการเดินทางของลูฟี่ และการรวบรวมพวกพ้อง เพื่อที่จะกลายเป็นจ้าวแห่งโจรสลัดก็ได้เริ่มต้นขึ้น...
เวลาผ่านไปจนแชงคูสเข้ามายึดเกาะฟัชเชียเป็นฐานชั่วคราว ซึ่งแชงคูสก็คือชายโจรสลัดผมแดงนั่นเอง ลูฟี่นั้นได้เป็นเพื่อนกับแชงคูสและติดใจแชงคูสและชื่นชมแชงคูสเป็นอย่างมาก จนเป็นแรงบรรดาลใจอยากเป็นโจรสลัดกับแชงคูส
ลูฟี่นั้นเพื่อที่จะโชว์ให้พวกแชงคูสได้เห็นว่าเค้าสามารถเป็นโจรสลัดกับพวกแชงคูสได้นั้น เค้าเอามีดแทงเข้าไปที่ด้านล่างตาข้างซ้ายของเขา
ในขณะที่ลูฟี่อยู่กับแชงคูสในผับบาร์นั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาตอนที่ ฮิงุมะ หัวหน้าโจรสลัดภูเขาเข้ามานั่นเอง
ลูฟี่ดันเผลอกินผลปีศาจเข้าไป นั่นก็คือผล โกมุ โกมุ ซึ่งทำให้เค้ากลายเป็นมนุษย์ยางนั่นเอง และผลปีศาจนี้ยังกระทบให้ลูฟี่ไม่สามารถว่ายน้ำได้ ไปตลอดชีวิตอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การที่กินผลปีศาจเข้าไปแล้วนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ลูฟี่คิดเลิกจะเป็นโจรสลัดเลยสักนิด
หลังจากที่ ลูฟี่ นั้นได้โดนลักพาตัวไปโดย ฮิงุมะ เจ้าแห่งทะเลก็โผล่ขึ้นมา พร้อมกับกิน ฮิงุมะ ไป แต่แล้วเจ้าแห่งทะเลก็เตรียมพร้อมที่จะกิน ลูฟี่ เหมือนกัน ลูฟี่ ซึ่งว่ายน้ำไม่ได้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ทว่า..
แชงคูสก็ได้ไปช่วยชีวิตเค้าไว้ และใช้ “จิตคุกคาม” ทำให้เจ้าแห่งทะเลหนีจากไป ซึ่งนั่นเองก็เป็นเหตุการณ์ที่ลูฟี่นั้นจะไม่มีวันลืม เพราะว่าจากการช่วยเหลือลูฟี่ในครั้งนี้ แชงคูสนั้นได้ยอมเสียแขนข้างซ้ายไป!!
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มแชงคูสก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางต่อ แต่ก่อนที่จะออกเดินทางนั้น ลูฟี่ก็ได้ให้คำสัญญากับแชงคูสไว้ว่า จะรวบรวมพรรคพวกที่เก่งไม่แพ้กลุ่มแชงคูส และจะเป็นผู้ค้นพบสมบัติอันล้ำค่าอันดับ 1 ของโลกให้ได้ พร้อมกับ “จะเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด”!!!
ลูฟี่ตัดสินใจที่จะไม่ไปกับแชงคูส และตัดสินใจจะสร้างโจรสลัดของตนเองขึ้นมา
แชงคูสเลยให้หมวกฟางที่เค้ารักและชอบมากให้กับลูฟี่ และรอวันที่ลูฟี่จะเป็นโจรสลัดที่โด่งดังและสามารถเหนือเค้าไปได้ ซึ่งในตอนนั้นเค้าก็จะมาเอาหมวกฟางกลับนั่นเอง
10 ปีผ่านไป... ลูฟี่ได้เติบโตขึ้นมามากแล้ว และในที่สุดการเดินทางของลูฟี่ และการรวบรวมพวกพ้อง เพื่อที่จะกลายเป็นจ้าวแห่งโจรสลัดก็ได้เริ่มต้นขึ้น...
**ค่าหัวของลูฟี่**
-30 ล้านเบรี
ลูฟี่ได้ค่าหัวครั้งแรกนี้เนื่องจากว่า ลูฟี่นั้นได้ไปโค่น บากี้, ดอน ครี๊ก และก็อารองลงไปซึ่งนับว่าเป็นค่าหัวที่สูงที่สุดในอีสต์บลูเลยทีเดียว
-100 ล้านเบรี
ลูฟี่ได้ค่าหัวครั้งที่สองนี้เนื่องจากว่า ลูฟี่นั้นได้ไปกำจัด 1 ใน 7 เทพโจรสลัด เดอะ คร๊อกโคดายน์
-300 ล้านเบรี
ลูฟี่ค่าหัวปัจจุบัน ซึ่งก็ได้จากการที่ลูฟี่นั้นได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 ร๊อบ ลุจจิ
ลูฟี่ได้ค่าหัวครั้งแรกนี้เนื่องจากว่า ลูฟี่นั้นได้ไปโค่น บากี้, ดอน ครี๊ก และก็อารองลงไปซึ่งนับว่าเป็นค่าหัวที่สูงที่สุดในอีสต์บลูเลยทีเดียว
-100 ล้านเบรี
ลูฟี่ได้ค่าหัวครั้งที่สองนี้เนื่องจากว่า ลูฟี่นั้นได้ไปกำจัด 1 ใน 7 เทพโจรสลัด เดอะ คร๊อกโคดายน์
-300 ล้านเบรี
ลูฟี่ค่าหัวปัจจุบัน ซึ่งก็ได้จากการที่ลูฟี่นั้นได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 ร๊อบ ลุจจิ
2.โซโล นักดาบ แห่งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่ชอบเดินหลงทางอยู่เป็นประจำ แต่มีความสามารถในการต่อสู้สูงมาก
**ประวัติโซโล**
ชื่อ: โรโรโนอา โซโล
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: หน่วยต่อสู้
อาชีพ: นักดาบ
อายุ: 19
ความสูง: 178
วันเกิด: 11 พฤศจิกายน
ค่าหัว: 120,000,000 เบรี
ความถนัด: การต่อสู้
ความฝัน: เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกให้ได้
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: หน่วยต่อสู้
อาชีพ: นักดาบ
อายุ: 19
ความสูง: 178
วันเกิด: 11 พฤศจิกายน
ค่าหัว: 120,000,000 เบรี
ความถนัด: การต่อสู้
ความฝัน: เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกให้ได้
**ข้อมูลของโซโล**
โซโลตอนเด็กนั้นได้ฝึกฝนอยู่ที่หมู่บ้าน ชิโมสึกิ กับอาจารย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง ซึ่งแม้กระทั่งยังเป็นแค่เด็ก แต่เค้าเก่งพอที่จะชนะผู้ใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามก็มีอยู่คนๆหนึ่งที่เค้านั้นไม่สามารถชนะได้ นั่นก็คือ คุอินะ ซึ่งเป็นลูกสาว ของอาจารย์โซโลนั่นเอง
หลังจากที่ต่อสู้กันเป็นเวลานาน และสู้กันหลายต่อหลายครั้งกับคุอินะ เค้าก็ต้องพ่ายแพ้ทุกๆครั้งเลย
โซโลนั้นเจ็บใจอย่างมากที่เค้าไม่สามารถเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดได้ และในการต่อสู้ครั้งที่ 2000 นั้นเค้าก็ขอคุอินะด้วยดาบจริงๆ ซึ่งผลปรากฏว่า เค้าก็แพ้เช่นเดิม
โซโลนั้นถึงกับร้องไห้และเสียใจต่อความพ่ายแพ้และบอกคุอินะว่าความฝันของเขาคือการที่เป้นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก
เมื่อคุอินะได้ยินเข้า เธอก็บอกเค้าว่าเธอนั้นก็มีความฝันที่เหมือนกับโซโล และเคยพูดกับพ่อของเธอไว้แบบนี้เช่นกัน แต่ว่าพ่อบอกเธอว่า ผู้หญิงนั้นไม่มีทางเป้นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกได้หรอก และเมื่อเธอโตขึ้นฝีมือเธอก็จะลดลงตามวัย
โซโลและคุอินะเลยสัญญาด้วยกันว่าจะต้องมีใครสักคนระหว่าง คุอินะ และ โซโล ที่จะต้องเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้
วันต่อมาหลังจากคำสัญญา คุอินะ เกิดอุบัติเหตุขึ้นและเสียชีวิตลงไป เนื่องจากเธอตกบันไดตาย
โซโลซึ่งให้คำสัญญาไว้กับเธอนั้น ถึงกับเศร้า และโซโลนั้นเลยตัดสินใจอะไรออก เค้าเลยขออนุญาติอาจารย์เอาดาบคุอินะมาใช้ เพื่อที่จะให้ทั้งสองประสบความฝันที่สำเร็จด้วยกัน และเค้านั้นจะต้องเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้
ซึ่งดาบที่โซโลเอามาจากคุอินะนั้นมีชื่อดาบว่า วาโด อิจิมอนจิ
โซโลซึ่งได้ฝึกฝนจากแต่ก่อนที่ใช้แค่สองดาบ แต่ตอนนี้นั้นกลายมาเป็นสามดาบ ฝึกหนักแต่ละท่าเพื่อที่สักวันความฝันของเขาจะเป็นจริง
มีอยู่วันหนึ่งโซโล ได้ยินข่าวว่ามีนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกอยู่ เค้านั้นเลยขออาจารย์ออกเดินทางจากหมู่บ้านของเขาเพื่อที่จะมาขอดวลกับนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ ที่มีชื่อว่า มิฮอก
แต่ทว่าการเดินทางของเขานั้นยากลำบากมากเพราะเค้ามีนิสัยที่ชอบหลงทางเป็นประจำเลยไม่สามารถไปหา มิฮอก ได้
ระหว่างทางที่โซโลตามหา มิฮอค อยู่นั้น เค้าก็ทำอาชีพเป็นนักล่าค่าหัว ซึ่งอาชีพนี้ก็เพื่อที่เค้าจะได้ดำรงชีวิตรักษาซ่อมดาบของเขาและมีชีวิตไปแต่ละวันได้
โซโลนั้นเดินทางและได้พวกมาสองคนที่มีชื่อว่า จอนนี่ และ โยซากุ ซึ่งทั้งสองคนนี้ก็เรียกเค้าว่าลูกพี่และเดินทางร่วมกับเค้าตลอดมาตอนจนโซโลเป็นนักล่าค่าหัวที่โด่งดัง
มีอยู่วันหนึ่ง กลุ่ม บาร๊อค เวิรก์ นั้นได้สั่งคนมาเอาตัวโซโลเข้ากลุ่มบาร๊อค เวิรค์ แต่ว่าโซโลนั้นก็ไม่ขอเข้าเนื่องจากต้องการตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มเท่านั้นถึงจะเข้า หลังจากนั้นโซโลก็ฆ่าคนๆนั้นที่มาขอให้เข้ากลุ่ม ซึ่งชายคนนั้นก็คือ Mr.7 สมัยก่อนนั่นเอง
ในขณะที่ โซโล เดินทางต่อและได้หลงทางกับ จอนนี่ และ โยซากุ โซโลก็มาเจอเมืองของกองทัพเรือเข้า (เกาะเชลล์)
โซโล นั้นได้ไปหาเรื่องเข้าซึ่งก็คือการฆ่าหมาจิ้งจอก!เลี้ยงของผู้พันมอรแกน โซโลเลยโดนจับและคิดจะปล่อยโซโลเมื่อครบ 1 เดือน (ซึ่งเป็นการโกหกนี่เอง)
ขณะที่โซโลโดนจับนั้น ลูฟี่กับโคบี้ก็ได้เข้ามาช่วย ซึ่งโซโลนั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้รู้ว่าเป็นการโกหกและรู้ว่าตัวเองยังไงก็ต้องเจอทหารเรือจับเป็นเป้าหมายอย่างแน่นอน และเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ เลยเข้าร่วมกับลูฟี่
ระหว่างการเดินทางนั้น โซโลนั้นได้เจอกับจอนนี่และโยซากุอีกครั้งหนึ่ง และในที่สุดสิ่งที่โซโลรอคอยก็มาถึงเมื่อเค้านั้นได้ไปที่บาราตีเอ
โซโลนั้นได้เจอกับมิฮอคในที่สุด ซึ่งมิฮอคก็ได้มาพังเรือของดอนครีก โซโลเลยขอท้าสู้กับมิฮอค และเป็นการดวล กัน 1-1 แต่ทว่าโซโลนั้นสู้ไม่ได้สักนิดเลยและระดับแตกต่างกับมิฮอคมากเกินไป โซโลเลยยอมให้มิฮอคฟันตรงกลางตัวเพื่อเป็นแผลแห่งความพ่ายแพ้ ซึ่งมิฮอคถึงกับทึ่งในตัวโซโล และบอกว่าคงจะได้สู้กับโซโลอีกและขอให้โซโลเหนือขึ้นและปราบเค้าให้ได้
โซโลนั้นพ่ายแพ้อย่างราบคาบแต่ก็ได้บอกกับลูฟี่ ว่า “ตั้งแต่นี้ไปเค้าจะไม่มีทางแพ้นักดาบเป็นครั้งที่ 2”!!! และแล้วการเดินทางของโซโลเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดและโค่นมิฮอคให้ได้ก็เริ่มต้นขึ้น....
อย่างไรก็ตามก็มีอยู่คนๆหนึ่งที่เค้านั้นไม่สามารถชนะได้ นั่นก็คือ คุอินะ ซึ่งเป็นลูกสาว ของอาจารย์โซโลนั่นเอง
หลังจากที่ต่อสู้กันเป็นเวลานาน และสู้กันหลายต่อหลายครั้งกับคุอินะ เค้าก็ต้องพ่ายแพ้ทุกๆครั้งเลย
โซโลนั้นเจ็บใจอย่างมากที่เค้าไม่สามารถเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดได้ และในการต่อสู้ครั้งที่ 2000 นั้นเค้าก็ขอคุอินะด้วยดาบจริงๆ ซึ่งผลปรากฏว่า เค้าก็แพ้เช่นเดิม
โซโลนั้นถึงกับร้องไห้และเสียใจต่อความพ่ายแพ้และบอกคุอินะว่าความฝันของเขาคือการที่เป้นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก
เมื่อคุอินะได้ยินเข้า เธอก็บอกเค้าว่าเธอนั้นก็มีความฝันที่เหมือนกับโซโล และเคยพูดกับพ่อของเธอไว้แบบนี้เช่นกัน แต่ว่าพ่อบอกเธอว่า ผู้หญิงนั้นไม่มีทางเป้นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกได้หรอก และเมื่อเธอโตขึ้นฝีมือเธอก็จะลดลงตามวัย
โซโลและคุอินะเลยสัญญาด้วยกันว่าจะต้องมีใครสักคนระหว่าง คุอินะ และ โซโล ที่จะต้องเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้
วันต่อมาหลังจากคำสัญญา คุอินะ เกิดอุบัติเหตุขึ้นและเสียชีวิตลงไป เนื่องจากเธอตกบันไดตาย
โซโลซึ่งให้คำสัญญาไว้กับเธอนั้น ถึงกับเศร้า และโซโลนั้นเลยตัดสินใจอะไรออก เค้าเลยขออนุญาติอาจารย์เอาดาบคุอินะมาใช้ เพื่อที่จะให้ทั้งสองประสบความฝันที่สำเร็จด้วยกัน และเค้านั้นจะต้องเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้
ซึ่งดาบที่โซโลเอามาจากคุอินะนั้นมีชื่อดาบว่า วาโด อิจิมอนจิ
โซโลซึ่งได้ฝึกฝนจากแต่ก่อนที่ใช้แค่สองดาบ แต่ตอนนี้นั้นกลายมาเป็นสามดาบ ฝึกหนักแต่ละท่าเพื่อที่สักวันความฝันของเขาจะเป็นจริง
มีอยู่วันหนึ่งโซโล ได้ยินข่าวว่ามีนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกอยู่ เค้านั้นเลยขออาจารย์ออกเดินทางจากหมู่บ้านของเขาเพื่อที่จะมาขอดวลกับนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ ที่มีชื่อว่า มิฮอก
แต่ทว่าการเดินทางของเขานั้นยากลำบากมากเพราะเค้ามีนิสัยที่ชอบหลงทางเป็นประจำเลยไม่สามารถไปหา มิฮอก ได้
ระหว่างทางที่โซโลตามหา มิฮอค อยู่นั้น เค้าก็ทำอาชีพเป็นนักล่าค่าหัว ซึ่งอาชีพนี้ก็เพื่อที่เค้าจะได้ดำรงชีวิตรักษาซ่อมดาบของเขาและมีชีวิตไปแต่ละวันได้
โซโลนั้นเดินทางและได้พวกมาสองคนที่มีชื่อว่า จอนนี่ และ โยซากุ ซึ่งทั้งสองคนนี้ก็เรียกเค้าว่าลูกพี่และเดินทางร่วมกับเค้าตลอดมาตอนจนโซโลเป็นนักล่าค่าหัวที่โด่งดัง
มีอยู่วันหนึ่ง กลุ่ม บาร๊อค เวิรก์ นั้นได้สั่งคนมาเอาตัวโซโลเข้ากลุ่มบาร๊อค เวิรค์ แต่ว่าโซโลนั้นก็ไม่ขอเข้าเนื่องจากต้องการตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มเท่านั้นถึงจะเข้า หลังจากนั้นโซโลก็ฆ่าคนๆนั้นที่มาขอให้เข้ากลุ่ม ซึ่งชายคนนั้นก็คือ Mr.7 สมัยก่อนนั่นเอง
ในขณะที่ โซโล เดินทางต่อและได้หลงทางกับ จอนนี่ และ โยซากุ โซโลก็มาเจอเมืองของกองทัพเรือเข้า (เกาะเชลล์)
โซโล นั้นได้ไปหาเรื่องเข้าซึ่งก็คือการฆ่าหมาจิ้งจอก!เลี้ยงของผู้พันมอรแกน โซโลเลยโดนจับและคิดจะปล่อยโซโลเมื่อครบ 1 เดือน (ซึ่งเป็นการโกหกนี่เอง)
ขณะที่โซโลโดนจับนั้น ลูฟี่กับโคบี้ก็ได้เข้ามาช่วย ซึ่งโซโลนั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้รู้ว่าเป็นการโกหกและรู้ว่าตัวเองยังไงก็ต้องเจอทหารเรือจับเป็นเป้าหมายอย่างแน่นอน และเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ เลยเข้าร่วมกับลูฟี่
ระหว่างการเดินทางนั้น โซโลนั้นได้เจอกับจอนนี่และโยซากุอีกครั้งหนึ่ง และในที่สุดสิ่งที่โซโลรอคอยก็มาถึงเมื่อเค้านั้นได้ไปที่บาราตีเอ
โซโลนั้นได้เจอกับมิฮอคในที่สุด ซึ่งมิฮอคก็ได้มาพังเรือของดอนครีก โซโลเลยขอท้าสู้กับมิฮอค และเป็นการดวล กัน 1-1 แต่ทว่าโซโลนั้นสู้ไม่ได้สักนิดเลยและระดับแตกต่างกับมิฮอคมากเกินไป โซโลเลยยอมให้มิฮอคฟันตรงกลางตัวเพื่อเป็นแผลแห่งความพ่ายแพ้ ซึ่งมิฮอคถึงกับทึ่งในตัวโซโล และบอกว่าคงจะได้สู้กับโซโลอีกและขอให้โซโลเหนือขึ้นและปราบเค้าให้ได้
โซโลนั้นพ่ายแพ้อย่างราบคาบแต่ก็ได้บอกกับลูฟี่ ว่า “ตั้งแต่นี้ไปเค้าจะไม่มีทางแพ้นักดาบเป็นครั้งที่ 2”!!! และแล้วการเดินทางของโซโลเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดและโค่นมิฮอคให้ได้ก็เริ่มต้นขึ้น....
**ค่าหัวของโซโล**
-60 ล้านเบรี
โซโลได้ค่าหัวครั้งแรกนี้เนื่องจากว่า โซโลได้จัดการนักล่าค่าหัวไป 100 คนและปราบ Mr.1
-120 ล้านเบรี
โซโลค่าหัวปัจจุบัน ซึ่งก็ได้จากการที่โซโลนั้นได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 คาคุ
โซโลได้ค่าหัวครั้งแรกนี้เนื่องจากว่า โซโลได้จัดการนักล่าค่าหัวไป 100 คนและปราบ Mr.1
-120 ล้านเบรี
โซโลค่าหัวปัจจุบัน ซึ่งก็ได้จากการที่โซโลนั้นได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 คาคุ
3.นามิ ต้นหนเรือ และ ผู้หญิงที่รักสมบัติและเงินทองนั่นเอง
**ประวัติ นามิ**
ชื่อ: นามิ
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: ต้นหนเรือ
อายุ: 18
ความสูง: 169cm
วันเกิด: 3 กรกฏาคม
ค่าหัว: 16,000,000 เบรี
ความถนัด: ลักลอบขโมยของต่างๆ, ต้นหนเรือ
ความฝัน: เขียนแผนที่โลก
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: ต้นหนเรือ
อายุ: 18
ความสูง: 169cm
วันเกิด: 3 กรกฏาคม
ค่าหัว: 16,000,000 เบรี
ความถนัด: ลักลอบขโมยของต่างๆ, ต้นหนเรือ
ความฝัน: เขียนแผนที่โลก
**ข้อมูลของนามิ**
นามิเป็นลูกบุญธรรมของ เบลเมล ซึ่งก็มี นามิ และก็ โนจิโกะ ทั้ง 3 นั้นได้อยู่กันเป็นเหมือนครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่ง กลุ่มโจรสลัดอารองก็มายึดเกาะ โคโคยาชิ ที่ทั้ง 3 อยู่นั่นเอง ซึ่ง อารองก็ให้ทุกคนในเกาะ โคโคยาชิ ต้องจ่ายเงินภาษีให้อารอง เพื่อที่ทุกคนจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
เบลเมลนั้นซึ่งไม่สามารถจ่ายภาษีไหว ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มอารองไปเจอ ลูกของเบลเมลเข้านั่นเอง เนื่องจากที่เบลเมลนั้นไม่สามารถบอกว่า นามิ และ โนจิโกะ ไม่ใช่ลูกของเธอเพราะเธอสนิทสนมกับทั้ง 2 จนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว เลยไม่สามารถจ่ายภาษีให้อารองเพียงพอ เลยโดนอารองทำตัวอย่างให้คนอื่นๆและชาวเมืองได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่ยอมจ่ายเงินให้อารองเพียงพอ หรือไม่ยอมจ่ายเงินให้ ซึ่งเบลเมลนั้นก็ต้องโชคร้ายอย่างมากและโดนอารองนั้นยิงปืนใส่จนเสียชีวิตไป ซึ่งเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาของทั้ง นามิ และ โนจิโกะ ด้วย
นามินั้นก็โดนจับตัวไปและยอมให้มาเป็นพวกเดียวกับกลุ่มอารอง เนื่องจากว่าอารองเห็นฝีมือนามิในการทำแผนที่นั่นเอง และอารองยังให้ข้อเสนอนามิอีกว่า ถ้าเกิดนามิ สามารถเอาเงิน 100 ล้านเบรี มาให้เค้าได้นั้น เค้าก็จะยอมปล่อยให้หมู่บ้านโคโคยาชิ ของนามิเป็นอิศระ
นามิเลยตัดสินใจใช้ชีวิต 8 ปีเพื่อสร้างแผนที่ให้อารองและหาเงิน 100 ล้านเบรีโดนการไปขโมยจากโจรสลัดกลุ่มอื่นมาให้อารองนั่นเอง
หลังจากที่นามินั้นได้ไปเจอ ลูฟี่ ที่เมือง โอเร้นจ์ ทาวน์ (เหตุการณ์ช่วงบากี้นั่นเอง) และได้เข้ากลุ่มของลูฟี่อย่างชั่วคราวเพื่อที่จะได้เอาสมบัติและเงินต่างๆมาให้อารองนั่นเอง
หลังจากที่ท่องไปเรื่อยๆกับ ลูฟี่ จนถึงช่วง บาราตีเอ นามินั้นก็เลยตัดสินใจขโมยเรือและทรัพย์สมบัติของลูฟี่ เมื่อกลุ่มลูฟี่นั้นได้ไปกินอาหารที่ บาราตีเอ นั่นเอง
ซึ่งหลังจากกลับมาที่ อารอง ปาร์ค แล้วนั้นเธอก็เหลือทรัพย์สมบัติอยู่แค่ 7 ล้านเบรีแล้วนั่นเองซึ่งใกล้จะสมหวังจากการปลดปล่อยหมู่บ้าน โคโคยาชิ จากอารองแล้ว
แต่น่าเสียดายที่อารองนั้นได้ให้ เนสุมิ ซึ่งเป็นทหารเรือไปขโมยเงินนามิ เพื่อที่อยากจะให้นามิอยู่กับกลุ่มอารองต่อไปโดยที่เค้าไม่เสียสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ
แต่หลังจากที่กลุ่มลูฟี่ มาที่ อารอง ปาร์ค นั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะช่วยนามิ เข้าไว้ ซึ่ง ลูฟี่ โซโล อุซป และ ซันจิ ก็สามารถโค่นกลุ่มอารองลงไปได้ในที่สุด
หลังจากที่ปราบกลุ่มอารองสำเร็จแล้ว นามินั้นก็ได้ทำสลักอันใหม่แทนอันเก่าของเธอนั่นเอง ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ ส้ม ที่มาจากต้นส้มของ เบลเมล นั่นเอง และแล้วนามินั้นตอนสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจจะไปกับกลุ่มลูฟี่ ซึ่งก็ได้ลาจากกับทุกๆคนในเมือง โคโคยาชิ พร้อมกับการขโมยนาฬิกาทุกๆคนไป ซึ่งก็ได้มาเป็นต้นหนเรือ ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางนั่นเอง...
เบลเมลนั้นซึ่งไม่สามารถจ่ายภาษีไหว ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มอารองไปเจอ ลูกของเบลเมลเข้านั่นเอง เนื่องจากที่เบลเมลนั้นไม่สามารถบอกว่า นามิ และ โนจิโกะ ไม่ใช่ลูกของเธอเพราะเธอสนิทสนมกับทั้ง 2 จนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว เลยไม่สามารถจ่ายภาษีให้อารองเพียงพอ เลยโดนอารองทำตัวอย่างให้คนอื่นๆและชาวเมืองได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่ยอมจ่ายเงินให้อารองเพียงพอ หรือไม่ยอมจ่ายเงินให้ ซึ่งเบลเมลนั้นก็ต้องโชคร้ายอย่างมากและโดนอารองนั้นยิงปืนใส่จนเสียชีวิตไป ซึ่งเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาของทั้ง นามิ และ โนจิโกะ ด้วย
นามินั้นก็โดนจับตัวไปและยอมให้มาเป็นพวกเดียวกับกลุ่มอารอง เนื่องจากว่าอารองเห็นฝีมือนามิในการทำแผนที่นั่นเอง และอารองยังให้ข้อเสนอนามิอีกว่า ถ้าเกิดนามิ สามารถเอาเงิน 100 ล้านเบรี มาให้เค้าได้นั้น เค้าก็จะยอมปล่อยให้หมู่บ้านโคโคยาชิ ของนามิเป็นอิศระ
นามิเลยตัดสินใจใช้ชีวิต 8 ปีเพื่อสร้างแผนที่ให้อารองและหาเงิน 100 ล้านเบรีโดนการไปขโมยจากโจรสลัดกลุ่มอื่นมาให้อารองนั่นเอง
หลังจากที่นามินั้นได้ไปเจอ ลูฟี่ ที่เมือง โอเร้นจ์ ทาวน์ (เหตุการณ์ช่วงบากี้นั่นเอง) และได้เข้ากลุ่มของลูฟี่อย่างชั่วคราวเพื่อที่จะได้เอาสมบัติและเงินต่างๆมาให้อารองนั่นเอง
หลังจากที่ท่องไปเรื่อยๆกับ ลูฟี่ จนถึงช่วง บาราตีเอ นามินั้นก็เลยตัดสินใจขโมยเรือและทรัพย์สมบัติของลูฟี่ เมื่อกลุ่มลูฟี่นั้นได้ไปกินอาหารที่ บาราตีเอ นั่นเอง
ซึ่งหลังจากกลับมาที่ อารอง ปาร์ค แล้วนั้นเธอก็เหลือทรัพย์สมบัติอยู่แค่ 7 ล้านเบรีแล้วนั่นเองซึ่งใกล้จะสมหวังจากการปลดปล่อยหมู่บ้าน โคโคยาชิ จากอารองแล้ว
แต่น่าเสียดายที่อารองนั้นได้ให้ เนสุมิ ซึ่งเป็นทหารเรือไปขโมยเงินนามิ เพื่อที่อยากจะให้นามิอยู่กับกลุ่มอารองต่อไปโดยที่เค้าไม่เสียสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ
แต่หลังจากที่กลุ่มลูฟี่ มาที่ อารอง ปาร์ค นั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะช่วยนามิ เข้าไว้ ซึ่ง ลูฟี่ โซโล อุซป และ ซันจิ ก็สามารถโค่นกลุ่มอารองลงไปได้ในที่สุด
หลังจากที่ปราบกลุ่มอารองสำเร็จแล้ว นามินั้นก็ได้ทำสลักอันใหม่แทนอันเก่าของเธอนั่นเอง ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ ส้ม ที่มาจากต้นส้มของ เบลเมล นั่นเอง และแล้วนามินั้นตอนสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจจะไปกับกลุ่มลูฟี่ ซึ่งก็ได้ลาจากกับทุกๆคนในเมือง โคโคยาชิ พร้อมกับการขโมยนาฬิกาทุกๆคนไป ซึ่งก็ได้มาเป็นต้นหนเรือ ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางนั่นเอง...
**ค่าหัวของนามิ**
- 16 ล้านเบรี
นามิได้ค่าหัวครั้งนี้เนื่องจากการที่ นามินั้นได้ไปปราบ แคลิเฟอร์ 1 ใน CP9 และเป็นกลุ่มที่ไปทำลายเอนิเอส ล๊อบบี้อีกด้วย ซึ่งก็ได้ฉายาว่า “แมวขโมย” เนื่องจากนามินั้นเก่งเรื่องการขโมยเป็นที่สุด
นามิได้ค่าหัวครั้งนี้เนื่องจากการที่ นามินั้นได้ไปปราบ แคลิเฟอร์ 1 ใน CP9 และเป็นกลุ่มที่ไปทำลายเอนิเอส ล๊อบบี้อีกด้วย ซึ่งก็ได้ฉายาว่า “แมวขโมย” เนื่องจากนามินั้นเก่งเรื่องการขโมยเป็นที่สุด
4.อุซปจ้าวแห่งการโกหก จมูกยาว แล้วก็ฉายา กัปตันอุซป หรือโซเงคิงนี่เอง
**ประวัติ อุซป**
ชื่อ: อุซป (โซเงคิงแบบปลอมตัว)
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: เจ้าแห่งการซุ่มยิง, สร้างอาวุธต่างๆ
อายุ: 17
เพศ: ชาย
วันเกิด: 1 เมษายน
ค่าหัว: 30,000,000 เบรี
ความถนัด: จอมโกหก, นักแม่นซุ่มยิง, สร้างอาวุธต่างๆ
ความฝัน: เป็นอัศวินผู้ห้าวหาญแห่งท้องทะเล
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: เจ้าแห่งการซุ่มยิง, สร้างอาวุธต่างๆ
อายุ: 17
เพศ: ชาย
วันเกิด: 1 เมษายน
ค่าหัว: 30,000,000 เบรี
ความถนัด: จอมโกหก, นักแม่นซุ่มยิง, สร้างอาวุธต่างๆ
ความฝัน: เป็นอัศวินผู้ห้าวหาญแห่งท้องทะเล
**ข้อมูลของอุซป**
อุซปนั้นเป็นลูกของ ยาซป ซึ่งก็คือคนในกลุ่มแชงคูสนั่นเอง ยาซปนั้นได้ไปกับแชงคูสแล้วปล่อย อุซป และแม่ของอุซปเอาไว้ เนื่องจากเพราะเหตุนี้ อุซปเลยต้องโกหกว่าโจรสลัดจะกลับมาแล้ว แม่เพราะแม่ของอุซปเป็นไข้ขึ้น อุซปหาวิธีที่จะช่วยและการพูดโกหกว่าโจรสลัดหรือพ่อของอุซปกลับมาแล้วนั้น เพื่อที่จะช่วยแม่ของเค้าหายจากการเป็นไข้ หลังจากที่แม่ของเค้าเสียชีวิตไป อุซปนั้นก็ไป หา คายะ ซึ่งก็ไปเล่าเรื่องสนุกๆและเรื่องโกหกอย่างเช่น เค้าเป็นโจรสลัดที่ห้าวหาญและมีลูกน้องในกลุ่มก็คือเด็ก 3 คน นินจิน พีมัง และ เจ้าหอมใหญ่
ต่อมาหลังจากที่กลุ่มลูฟี่ได้เข้ามา อุซปนั้นก็ยังใช้ชีวิตในการโกหกตามเคย แต่ว่าเพราะมีกัปตัน คุโระอยู่นั่นเองซึ่งอยู่กับคายะมา 3 ปี แล้วคิดวางแผนที่จะฆ่า คายะ อุซปรู้เข้าเลยหาวิธีบอกคายะเกี่ยวกับเรื่องนี้ และในที่สุดกลุ่มลูฟี่ และอุซป ก็ต่อสู้กับกลุ่มคุโระ หลังจากที่ลูฟี่ปราบคุโระได้แล้วนั้น อุซปก็ออกจากกลุ่มโจรสลัดอุซป และกำลังจะเดินทางออกทะเลด้วยตนเองในการผจญภัยของ เขา แต่ทว่าลูฟี่ก็ได้ชวนเค้าให้มาเข้ากลุ่ม และให้ฉายาอุซปว่า สไนเปอร์ ในกลุ่ม...
ต่อมาหลังจากที่กลุ่มลูฟี่ได้เข้ามา อุซปนั้นก็ยังใช้ชีวิตในการโกหกตามเคย แต่ว่าเพราะมีกัปตัน คุโระอยู่นั่นเองซึ่งอยู่กับคายะมา 3 ปี แล้วคิดวางแผนที่จะฆ่า คายะ อุซปรู้เข้าเลยหาวิธีบอกคายะเกี่ยวกับเรื่องนี้ และในที่สุดกลุ่มลูฟี่ และอุซป ก็ต่อสู้กับกลุ่มคุโระ หลังจากที่ลูฟี่ปราบคุโระได้แล้วนั้น อุซปก็ออกจากกลุ่มโจรสลัดอุซป และกำลังจะเดินทางออกทะเลด้วยตนเองในการผจญภัยของ เขา แต่ทว่าลูฟี่ก็ได้ชวนเค้าให้มาเข้ากลุ่ม และให้ฉายาอุซปว่า สไนเปอร์ ในกลุ่ม...
**ค่าหัวของอุซป**
- 30 ล้านเบรี
ความจริงแล้วนั้นค่าหัวของอุซปไม่มีหรอก แต่ที่มีก็คืออีกร่างหนึ่งของอุซปนั่นก็คือ โซเงคิงนั่นเอง ซึ่งโซเงคิงมีค่าหัวถึง 30 ล้านเบรี
ด้วยกัน และมีฉายาว่า “เจ้าแห่งการซุ่มยิง” ฉายานี้ได้มาจากโซเงคิง ได้ช่วยโรบินจากการยิงแบบสุดยอดแห่งความแม่นใส่พวกทหาร
เรือในตอน เอนิเอส ร๊อบบี้ นั่นเอง
ความจริงแล้วนั้นค่าหัวของอุซปไม่มีหรอก แต่ที่มีก็คืออีกร่างหนึ่งของอุซปนั่นก็คือ โซเงคิงนั่นเอง ซึ่งโซเงคิงมีค่าหัวถึง 30 ล้านเบรี
ด้วยกัน และมีฉายาว่า “เจ้าแห่งการซุ่มยิง” ฉายานี้ได้มาจากโซเงคิง ได้ช่วยโรบินจากการยิงแบบสุดยอดแห่งความแม่นใส่พวกทหาร
เรือในตอน เอนิเอส ร๊อบบี้ นั่นเอง
5.ซันจิ ผู้ที่ชอบสาวๆเป็นอย่างมาก และเป็นกุ๊ก ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
**ประวัติซันจิ**
ชื่อ: ซันจิ
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: กุ๊ก
อายุ: 19
ความสูง: 177
วันเกิด: 2 มีนาคม
ค่าหัว: 77,000,000 เบรี
ความถนัด: การต่อสู้, ทำอาหาร
ความฝัน: ค้นหา All Blue
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: กุ๊ก
อายุ: 19
ความสูง: 177
วันเกิด: 2 มีนาคม
ค่าหัว: 77,000,000 เบรี
ความถนัด: การต่อสู้, ทำอาหาร
ความฝัน: ค้นหา All Blue
**ข้อมูลของซันจิ**
ซันจิ ตอนสมัยอายุ 10 ขวบนั้นเค้าได้ทำงานอยู่ในเรือสำราญ ที่มีชื่อว่า โอบิท ซึ่งก็มาเรียนเป็นกุ๊กนั่นเอง แต่ทว่ามีอยู่วันหนึ่ง เซฟ ได้บุกเข้ามายึดเรือ และแล้วเรือของเซฟ และเรือสำราญที่ซันจิอยู่ก็ได้เกิดการต่อสู้กัน
แต่เนื่องจากซันจิ ยอมสู้เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกฆ่านั้น ก็เจอเซฟอัดเข้าไปเต็มๆ และซันจิก็ได้พูดออกมาว่า สักวันหนึงจะต้องหาออลบลูให้พบ
แต่ทว่าในช่วงนั้นมีพายุที่หนักมากจนทำให้ทะเลฟาดใส่เรือจนทำให้ซันจินั้นตกลงไปในทะเล เซฟนั้นซึ่งได้ยินความฝันของซันจินั้น รีบเข้าไปช่วยซันจิที่ตกลงไปในทะเลนั่นเอง
และแล้วหลายวันผ่านไปทั้งสองก็มาเกยตื้นอยู่ที่ โขดหินแห่งหนึ่งซึ่งก็ต้องรอจนกว่าจะมีใครมาช่วย
เซฟนั้นได้ให้อาหารซันจิสำรองไว้แต่ทว่าสำหรับเซฟนั้นกลับไม่มีอาหารเหลือเลยสักนิดมีแต่ทรัพย์สมบัติ เซฟซึ่งให้อาหารซันจิไปบอกว่าช่วยไปอยู่อีกฝั่งรอดูเรือด้วยละกันและเมื่อเจอก็กลับมาบอกด้วย
เวลาได้ผ่านไป 70 วัน ซันจิซึ่งไม่เหลืออาหารแล้วนั้น ได้มาดูเซฟว่าเค้าตายรึยังแต่พอมาดูอีกทีก็ยังเห็นถุงที่ซันจินึกว่าเต็มไปด้วยอาหารเหลืออยู่นั่นเอง เลยเตรียมพร้อมที่จะมาขโมยเอาไปกิน
แต่พอได้มาเปิดดูแล้วนั้นเต็มไปด้วย ทรัพย์สมบัติ ซันจิถึงกับอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็นแล้วถามเซฟว่าเค้าอยู่รอดมาได้อย่างไร แต่พอมาดูความเท็จจริงแล้วนั้น ซันจิก็แทบไม่เชื่อสายตา เพราะว่าเซฟนั้นได้กินขาตัวเองไปแล้วนั่นเอง ซันจิเลยถามเซฟว่าทำไมเค้าถึงช่วย ซันจิ เซฟตอบว่า “เพราะแกกับฉันมีความฝันเดียวกันน่ะสิ”
15 วันผ่านไปอีก ในที่สุดก็มีเรือเข้ามาช่วยทั้ง 2 นั่นเอง และแล้วทั้งซันจิและเซฟก็ช่วยกันเปิดภัตตาคาร บาราตีเอขึ้นมา
หลังจากนั้นซันจิก็ช่วยกำจัดโจรสลัดที่มาก่อกวน ภัตตาคาร บาราตีเอ ตลอดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของเซฟ แต่อย่างไรก็ตามเค้าก็รู้ว่าไม่มีทางตอบแทนบุญคุณได้หมดหรอก
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาและจะมายึด ภัตตาคาร บาราตีเอ นั่นก็คือ กลุ่มโจรสลัด ดอนครีกนั่นเอง
ซันจิซึ่งต่อสู้กับกลุ่มดอนครีก นั้น ได้มีลูฟี่ช่วยหนุนไว้ตลอด และลูฟี่นั้นก็ได้ช่วยทำให้กลุ่มดอนครีกพ่ายแพ้ไปในยังที่สุด
ลูฟี่นั้นขอให้ซันจิมาเป็นกุ๊กในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง แต่ทว่าซันจิก็ไม่ยอมไป จนกระทั่งตอนสุดท้าย เซฟได้เตือนซันจิว่าไปทำความฝันของทั้งคู่ให้สำเร็จ นั่นก็คือการหาออลบลู นั่นเอง
หลังจากที่ซันจิรู้เข้าก็ขอบคุณ เซฟเป็นอย่างมากที่ดูแลเลี้ยงเขามาจนถึงปัจจุบันนี้ และแล้วซันจิซึ่งได้เข้ามาเป็นกุ๊ก ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ก็ได้เดินทางไปเพื่อเป้าหมายที่เค้าฝันไว้ นั่นก็คือ ตามหาออลบลู...
แต่เนื่องจากซันจิ ยอมสู้เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกฆ่านั้น ก็เจอเซฟอัดเข้าไปเต็มๆ และซันจิก็ได้พูดออกมาว่า สักวันหนึงจะต้องหาออลบลูให้พบ
แต่ทว่าในช่วงนั้นมีพายุที่หนักมากจนทำให้ทะเลฟาดใส่เรือจนทำให้ซันจินั้นตกลงไปในทะเล เซฟนั้นซึ่งได้ยินความฝันของซันจินั้น รีบเข้าไปช่วยซันจิที่ตกลงไปในทะเลนั่นเอง
และแล้วหลายวันผ่านไปทั้งสองก็มาเกยตื้นอยู่ที่ โขดหินแห่งหนึ่งซึ่งก็ต้องรอจนกว่าจะมีใครมาช่วย
เซฟนั้นได้ให้อาหารซันจิสำรองไว้แต่ทว่าสำหรับเซฟนั้นกลับไม่มีอาหารเหลือเลยสักนิดมีแต่ทรัพย์สมบัติ เซฟซึ่งให้อาหารซันจิไปบอกว่าช่วยไปอยู่อีกฝั่งรอดูเรือด้วยละกันและเมื่อเจอก็กลับมาบอกด้วย
เวลาได้ผ่านไป 70 วัน ซันจิซึ่งไม่เหลืออาหารแล้วนั้น ได้มาดูเซฟว่าเค้าตายรึยังแต่พอมาดูอีกทีก็ยังเห็นถุงที่ซันจินึกว่าเต็มไปด้วยอาหารเหลืออยู่นั่นเอง เลยเตรียมพร้อมที่จะมาขโมยเอาไปกิน
แต่พอได้มาเปิดดูแล้วนั้นเต็มไปด้วย ทรัพย์สมบัติ ซันจิถึงกับอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็นแล้วถามเซฟว่าเค้าอยู่รอดมาได้อย่างไร แต่พอมาดูความเท็จจริงแล้วนั้น ซันจิก็แทบไม่เชื่อสายตา เพราะว่าเซฟนั้นได้กินขาตัวเองไปแล้วนั่นเอง ซันจิเลยถามเซฟว่าทำไมเค้าถึงช่วย ซันจิ เซฟตอบว่า “เพราะแกกับฉันมีความฝันเดียวกันน่ะสิ”
15 วันผ่านไปอีก ในที่สุดก็มีเรือเข้ามาช่วยทั้ง 2 นั่นเอง และแล้วทั้งซันจิและเซฟก็ช่วยกันเปิดภัตตาคาร บาราตีเอขึ้นมา
หลังจากนั้นซันจิก็ช่วยกำจัดโจรสลัดที่มาก่อกวน ภัตตาคาร บาราตีเอ ตลอดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของเซฟ แต่อย่างไรก็ตามเค้าก็รู้ว่าไม่มีทางตอบแทนบุญคุณได้หมดหรอก
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาและจะมายึด ภัตตาคาร บาราตีเอ นั่นก็คือ กลุ่มโจรสลัด ดอนครีกนั่นเอง
ซันจิซึ่งต่อสู้กับกลุ่มดอนครีก นั้น ได้มีลูฟี่ช่วยหนุนไว้ตลอด และลูฟี่นั้นก็ได้ช่วยทำให้กลุ่มดอนครีกพ่ายแพ้ไปในยังที่สุด
ลูฟี่นั้นขอให้ซันจิมาเป็นกุ๊กในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง แต่ทว่าซันจิก็ไม่ยอมไป จนกระทั่งตอนสุดท้าย เซฟได้เตือนซันจิว่าไปทำความฝันของทั้งคู่ให้สำเร็จ นั่นก็คือการหาออลบลู นั่นเอง
หลังจากที่ซันจิรู้เข้าก็ขอบคุณ เซฟเป็นอย่างมากที่ดูแลเลี้ยงเขามาจนถึงปัจจุบันนี้ และแล้วซันจิซึ่งได้เข้ามาเป็นกุ๊ก ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ก็ได้เดินทางไปเพื่อเป้าหมายที่เค้าฝันไว้ นั่นก็คือ ตามหาออลบลู...
**ค่าหัวของซันจิ**
- 77 ล้านเบรี
ซันจิได้ค่าหัวครั้งนี้ก็เนื่องจากว่า ได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 จาบรา แต่ทว่าเนื่องจาก ช่างกล้องลืมเปิดเลนส์เอาไว้เลยไม่ได้ถ่ายรูปซันจิ เลยต้องวาดรูปภาพซันจิขึ้นมาแทน
ซันจิได้ค่าหัวครั้งนี้ก็เนื่องจากว่า ได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 จาบรา แต่ทว่าเนื่องจาก ช่างกล้องลืมเปิดเลนส์เอาไว้เลยไม่ได้ถ่ายรูปซันจิ เลยต้องวาดรูปภาพซันจิขึ้นมาแทน
6.ช๊อปเปอร์ เจ้ากวางตัวน้อยน่ารัก ซึ่งเป็นหมอ ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
**ประวัติ ช๊อปเปอร์**
ชื่อ: โทนี่ โทนี่ ช๊อปเปอร์
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: หมอ
อายุ: 15
วันเกิด: 24 ธันวาคม
ค่าหัว: 50 เบรี
ความถนัด: วิชาการแพทย์, พูดคุยกับ!ได้
ความฝัน: เป็นหมอที่รักษาได้ทุกโรค
ผลปีศาจ: ฮิโตะ ฮิโตะ [ความสามารถ: ร่างมนุษย์]
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: หมอ
อายุ: 15
วันเกิด: 24 ธันวาคม
ค่าหัว: 50 เบรี
ความถนัด: วิชาการแพทย์, พูดคุยกับ!ได้
ความฝัน: เป็นหมอที่รักษาได้ทุกโรค
ผลปีศาจ: ฮิโตะ ฮิโตะ [ความสามารถ: ร่างมนุษย์]
**ข้อมูลของช๊อปเปอร์**
ช๊อปเปอร์นั้นเป็นกวางเรนเดียร์ ที่ถูกทอดทิ้งและขับไล่มาตั้งแต่เกิด เพราะว่ามีจมูกที่เป็นสีฟ้าแตกต่างจากกวางตัวอื่นๆ
มีอยู่วันหนึ่ง ช๊อปเปอร์ ได้ไปกินผล ฮิโตะ ฮิโตะ เข้าไปซึ่งก็ทำให้เค้าสามารถแปรงร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่เค้าแปลงร่างเป็นมนุษย์นั้นก็ไม่เหมือนมนุษย์เลยสักนิด
พอช๊อปเปอร์ได้ไปในหมู่บ้านในเกาะดรัม นั้น ก็ต้องถูกคนในหมู่บ้านยิงใส่เขา และถูกเตะไล่ออกมาจากหมู่บ้านเพราะคนในหมู่บ้านนึกว่าเขาเป็นมนุษย์หิมะ
หลังจากที่เขาได้ถูกขับไล่ออกจากทั้ง มนุษย์ และ กวางนั้น วันหนึ่งชายคนหนึ่งที่มีนามว่า ด๊อกเตอร์ ฮิลรุก ก็มาเจอ ช๊อปเปอร์ในขณะที่เค้ายังบาดเจ็บอยู่
ซึ่งด๊อกเตอร์ ฮิลรุกนั้นก็เป็นคนตั้งชื่อ ช๊อปเปอร์ ว่า โทนี่ โทนี่ ช๊อปเปอร์ นั่นเองและเลี้ยงดูช๊อปเปอร์จนกว่า แผลของช๊อปเปอร์จะหายดี
ช๊อปเปอร์นั้นได้เริ่มสนิทกับ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุก เป็นอย่างมาก จนกระทั่ง...
1 ปีผ่านไป แผลของช๊อปเปอร์นั้นได้หายเรียบร้อย และในที่สุด ด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ก็ไล่ช๊อปเปอร์ออกไปเนื่องจากเค้าไม่ต้องการให้ช๊อปเปอร์อยู่ต่อแล้ว เนื่องจากว่าเค้าไม่อยากให้ช๊อปเปอร์รู้ว่าเค้าจะตายในอีกไม่นานนี้ด้วยโรคๆ หนึ่งที่ไม่สามารถเยียวยาได้ ช๊อปเปอร์ ได้ออกไปก็จริงแต่ทว่าก็ไปได้ยินการพูดคุยระหว่าง ด๊อก ทรีนู กับ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคและได้ยินเรื่องการตายเข้า
ช๊อปเปอร์ทันใดนั้นรีบเข้ามาดูหนังสือและหา สัญลักษณ์กะโหลกไขว้เพื่อที่ว่า ด๊อกเตอร์ ได้บอกเค้าว่า สัญลักษณ์กะโหลกเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง ช๊อปเปอร์เลยออกเดินทางไปหายารักษานั่น
หลังจากที่หาเจอเข้า ช๊อปเปอร์ก็ได้กลับมาให้ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคในสภาพที่ย่ำแย่อย่างมากเนื่องจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ซึ่งเห็นใจช๊อปเปอร์และรู้ว่ายังไงเค้าก็ต้องตายเลยกินเห็ดพิษนั่นเข้าไปเพื่อตอบแทนน้ำใจที่ดีของช๊อปเปอร์ที่ไปหามาให้
หลังจากนั้น อีกไม่นาน ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคได้ถูกเรียกไปจากวาโปลู และพอช๊อปเปอร์ได้รู้เข้าจากด๊อกทรีนูว่า ด๊อกเตอร์ได้กินเห็ดพิษเข้าไปเลยรีบวิ่งตามไปช่วย แต่เนื่องจากมันสายไปแล้ว เพราะด๊อกเตอร์ได้กินยาระเบิดตัวเองตายไปเสียแล้ว ช๊อปเปอร์ถึงกับเศร้าและช๊อกเป็นถึงที่สุด
หลังจากนั้นช๊อปเปอร์เลยบอกด๊อกทรีนูว่า “ต้องการจะเป็นหมอที่รักษาทุกโรคให้ได้ เพราะโลกนี้ไม่มีโรคที่ไหนที่จะรักษาหายไม่ได้” ด๊อกทรีนูซึ่งเห็นใจช๊อปเปอร์เลยรับเลี้ยงดูช๊อปเปอร์และสอนวิชาแพทย์ให้ช๊อปเปอร์หลังจากนั้นมา
หลังจากนั้นเวลาได้ผ่านไป 6 ปีจนกระทั่งกลุ่มหมวกฟางได้มาถึง ช๊อปเปอร์นั้นไม่เชื่อใจพวกลูฟี่เลยสักนิดเนื่องจากว่าพวกนี้จ้องที่จะกินช๊อปเปอร์อยู่ตลอดเวลา แต่พอช๊อปเปอร์ได้โชว์วิชาการแพทย์ของเขาและฝีมือในการต่อสู้ของเขานั้น ก็ทำให้ลูฟี่สนใจเค้าเป็นอย่างมากและชักชวนเค้าให้มาอยู่ในกลุ่ม
หลังจากที่ ลูฟี่ ได้ปราบวาโปลูไปได้แล้วนั้น ช๊อปเปอร์นั้นก็ตัดสินใจเข้ากลุ่มของลูฟี่ เพื่อที่จะได้ศึกษาทางแพทย์ได้ไกลมากขึ้นและเพื่อที่ความฝันของเค้าจะได้เป็นจริงขึ้นมาและสืบทอดเจตนารมณ์ของด๊อกเตอร์ฮิลรุคต่อไป...
มีอยู่วันหนึ่ง ช๊อปเปอร์ ได้ไปกินผล ฮิโตะ ฮิโตะ เข้าไปซึ่งก็ทำให้เค้าสามารถแปรงร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่เค้าแปลงร่างเป็นมนุษย์นั้นก็ไม่เหมือนมนุษย์เลยสักนิด
พอช๊อปเปอร์ได้ไปในหมู่บ้านในเกาะดรัม นั้น ก็ต้องถูกคนในหมู่บ้านยิงใส่เขา และถูกเตะไล่ออกมาจากหมู่บ้านเพราะคนในหมู่บ้านนึกว่าเขาเป็นมนุษย์หิมะ
หลังจากที่เขาได้ถูกขับไล่ออกจากทั้ง มนุษย์ และ กวางนั้น วันหนึ่งชายคนหนึ่งที่มีนามว่า ด๊อกเตอร์ ฮิลรุก ก็มาเจอ ช๊อปเปอร์ในขณะที่เค้ายังบาดเจ็บอยู่
ซึ่งด๊อกเตอร์ ฮิลรุกนั้นก็เป็นคนตั้งชื่อ ช๊อปเปอร์ ว่า โทนี่ โทนี่ ช๊อปเปอร์ นั่นเองและเลี้ยงดูช๊อปเปอร์จนกว่า แผลของช๊อปเปอร์จะหายดี
ช๊อปเปอร์นั้นได้เริ่มสนิทกับ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุก เป็นอย่างมาก จนกระทั่ง...
1 ปีผ่านไป แผลของช๊อปเปอร์นั้นได้หายเรียบร้อย และในที่สุด ด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ก็ไล่ช๊อปเปอร์ออกไปเนื่องจากเค้าไม่ต้องการให้ช๊อปเปอร์อยู่ต่อแล้ว เนื่องจากว่าเค้าไม่อยากให้ช๊อปเปอร์รู้ว่าเค้าจะตายในอีกไม่นานนี้ด้วยโรคๆ หนึ่งที่ไม่สามารถเยียวยาได้ ช๊อปเปอร์ ได้ออกไปก็จริงแต่ทว่าก็ไปได้ยินการพูดคุยระหว่าง ด๊อก ทรีนู กับ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคและได้ยินเรื่องการตายเข้า
ช๊อปเปอร์ทันใดนั้นรีบเข้ามาดูหนังสือและหา สัญลักษณ์กะโหลกไขว้เพื่อที่ว่า ด๊อกเตอร์ ได้บอกเค้าว่า สัญลักษณ์กะโหลกเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง ช๊อปเปอร์เลยออกเดินทางไปหายารักษานั่น
หลังจากที่หาเจอเข้า ช๊อปเปอร์ก็ได้กลับมาให้ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคในสภาพที่ย่ำแย่อย่างมากเนื่องจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ซึ่งเห็นใจช๊อปเปอร์และรู้ว่ายังไงเค้าก็ต้องตายเลยกินเห็ดพิษนั่นเข้าไปเพื่อตอบแทนน้ำใจที่ดีของช๊อปเปอร์ที่ไปหามาให้
หลังจากนั้น อีกไม่นาน ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคได้ถูกเรียกไปจากวาโปลู และพอช๊อปเปอร์ได้รู้เข้าจากด๊อกทรีนูว่า ด๊อกเตอร์ได้กินเห็ดพิษเข้าไปเลยรีบวิ่งตามไปช่วย แต่เนื่องจากมันสายไปแล้ว เพราะด๊อกเตอร์ได้กินยาระเบิดตัวเองตายไปเสียแล้ว ช๊อปเปอร์ถึงกับเศร้าและช๊อกเป็นถึงที่สุด
หลังจากนั้นช๊อปเปอร์เลยบอกด๊อกทรีนูว่า “ต้องการจะเป็นหมอที่รักษาทุกโรคให้ได้ เพราะโลกนี้ไม่มีโรคที่ไหนที่จะรักษาหายไม่ได้” ด๊อกทรีนูซึ่งเห็นใจช๊อปเปอร์เลยรับเลี้ยงดูช๊อปเปอร์และสอนวิชาแพทย์ให้ช๊อปเปอร์หลังจากนั้นมา
หลังจากนั้นเวลาได้ผ่านไป 6 ปีจนกระทั่งกลุ่มหมวกฟางได้มาถึง ช๊อปเปอร์นั้นไม่เชื่อใจพวกลูฟี่เลยสักนิดเนื่องจากว่าพวกนี้จ้องที่จะกินช๊อปเปอร์อยู่ตลอดเวลา แต่พอช๊อปเปอร์ได้โชว์วิชาการแพทย์ของเขาและฝีมือในการต่อสู้ของเขานั้น ก็ทำให้ลูฟี่สนใจเค้าเป็นอย่างมากและชักชวนเค้าให้มาอยู่ในกลุ่ม
หลังจากที่ ลูฟี่ ได้ปราบวาโปลูไปได้แล้วนั้น ช๊อปเปอร์นั้นก็ตัดสินใจเข้ากลุ่มของลูฟี่ เพื่อที่จะได้ศึกษาทางแพทย์ได้ไกลมากขึ้นและเพื่อที่ความฝันของเค้าจะได้เป็นจริงขึ้นมาและสืบทอดเจตนารมณ์ของด๊อกเตอร์ฮิลรุคต่อไป...
**ค่าหัวของช๊อปเปอร์**
- 50 เบรี
ค่าหัวของช๊อปเปอร์นั้นถือว่าน้อยนิดมากเนื่องจากว่า ทางรัฐบาลนึกว่าช๊อปเปอร์เป็นแค่!เลี้ยงและไม่ได้คิดว่าช๊อปเปอร์เป็นคนปราบ CP9 คุมาโดริ
ค่าหัวของช๊อปเปอร์นั้นถือว่าน้อยนิดมากเนื่องจากว่า ทางรัฐบาลนึกว่าช๊อปเปอร์เป็นแค่!เลี้ยงและไม่ได้คิดว่าช๊อปเปอร์เป็นคนปราบ CP9 คุมาโดริ
7.โรบิน ผู้หญิงที่มีความรู้เรื่องประวัติศาตร์ และสามารถอ่านโพเนกลีฟได้ ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
**ประวัติ โรบิน**
ชื่อ: นิโค โรบิน
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: นักโบราณคดี
อายุ: 28
วันเกิด: 6 กุมภาพันธ์
ความสูง: 188cm
ค่าหัว: 80,000,000 เบรี
ความถนัด: อ่านโพเนกลีฟ, รอบรู้เรื่องต่างๆ
ความฝัน: ค้นหา โพเนกลีฟที่แท้จริง
ผลปีศาจ: ฮานะ ฮานะ [ความสามารถ: ผลิดอก]
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: นักโบราณคดี
อายุ: 28
วันเกิด: 6 กุมภาพันธ์
ความสูง: 188cm
ค่าหัว: 80,000,000 เบรี
ความถนัด: อ่านโพเนกลีฟ, รอบรู้เรื่องต่างๆ
ความฝัน: ค้นหา โพเนกลีฟที่แท้จริง
ผลปีศาจ: ฮานะ ฮานะ [ความสามารถ: ผลิดอก]
**ข้อมูลของโรบิน**
นิโค โรบิน เกิดที่เกาะ โอฮาร่าและพ่อแม่ของเธอก็เป็นนักโบราณคดีด้วย แม่ของเธอนั้นที่มีชื่อว่า นิโค โอลเวีย ได้ออกไปในทะเลปล่อยโรบินไว้คนเดียวในเกาะตอนเธออายุแค่ 2 ขวบ ซึ่งก็ฝากให้พี่ชายของ โอลเวีย ดูแลไว้ ซึ่งภรรยาของเขาก็คือ โรจิ
สภาพของโรบินช่างย่ำแย่มากเพราะมีแต่คนรังเกียจนิโค โรบินเนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นปีศาจที่ได้กินผลปีศาจ ฮานะ ฮานะ[ผลิดอก] เข้าไป เลยไม่มีใครอยากเข้าใกล้ด้วย
เธอนั้นซึ่งมีแต่ความโศกเศร้ากับสิ่งต่างๆก็ได้เข้าไปในต้นไม้แห่งปัญญาซึ่งเธอได้ไปอ่านหนังสือ ซึ่งด๊อกเตอร์ โครบาก็เห็นเข้า และเธอก็ได้รับอนุญาติให้สามารถอ่านหนังสือต่างๆที่นี่ได้ฟรี
พอเธอ อายุ 8 ขวบนั้นเธอได้ผ่านข้อสอบโบราณคดี และได้รางวัลตราของนักวิชาการเป็นการตอบแทน หลังจากนั้น โรบินก็เลยอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ที่ว่างเปล่าเพราะเธอได้รางวัลตราแล้ว แต่ทว่า ด๊อกเตอร์ โครบาก็ต้องห้ามเธอและสั่งแบนเธอจาก ต้นไม้แห่งปัญญาถ้าเธอเข้าไปดูหรือรู้เรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่า เพราะว่าเธอยังเด็กแล้วอีกอย่างใครที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นคนผิดกฏหมายต่อโลก
โรบินซึ่งรับไม่ได้เลยวิ่งหนีร้องไห้ออกไป และได้ไปพบกับ ยักษ์เซาโร เข้าที่มาเกยฝั่งในเกาะโอฮาร่า หลังจากที่โรบินเริ่มตีสนิทกับ เซาโรนั้น เซาโรก็ได้รู้ว่าที่นี่เป็นเกาะโอฮารา และได้บอกโรบินให้คนอื่นรู้ว่า ตอนนี้พวกกองทัพเรือกำลังจะมาที่เกาะแห่งนี้แล้ว เพื่อมาจัดการพวกนักวิชาการของเกาะนี้ทุกคน
โรบินนั้นได้วิ่งไปที่ต้นไม้แห่งปัญญา ในขณะที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังวิ่งผ่านกันกับแม่ของเธอ หลังจากที่เธอมาถึงต้นไม้แห่งปัญญา เธอนั้น ก็รู้ว่าคนอื่นรู้กันหมดแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่ กองทัพเรือมาที่นี่ แต่เธอก็ถามทุกๆคนว่า แม่ของเธอมารึเปล่า ซึ่งโครบาก็ปฏิเสธ กลับไปว่าแม่จะมาอยู่ที่นี่ได้ไง
หลังจากที่พวกรัฐบาลได้บุกเข้ามาในต้นไม้แห่งปัญญา พวกรัฐบาลก็จับทุกๆคนออกไปและเตรียมพร้อมที่จะเผาหลักฐานทุกอย่างทิ้งซะ
ในขณะที่โรบินนั้นได้เห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เธอก็เริ่มรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นแม่ของเธออย่างแน่นอน และแล้วในทีสุดโรบินก็เจอกับแม่ของเธอในที่สุด แต่ทว่า...
มันก็เป็นช่วงเวลาอันสั้นๆ เพราะว่า โอลเวียได้บอกให้เซาโร พาโรบินหนีออกไปและให้โรบินจงมีชีวิตอยู่ต่อไป
หลังจากที่เซาโร พาโรบินมาที่ปลอดภัยแล้วนั้น เซาโรก็ต้องเจอกับ อาโอคิยิระหว่างทางและถูกกักกั้นเอาไว้พร้อมกับยอมเสียสละและบอกโรบินว่าสักวันจะต้องมีพรรคพวกและต้องรอโรบินอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
โรบินนั้นได้เจอสิ่งโหดร้ายต่างๆ ตั้งแต่บัสเตอร์ คอล และการจากของโอลเวีย และนักโบราณดดีทุกๆคน พร้อมกับเซาโร และเกาะที่เธออาศัยอยู่ ทุกอย่างได้พินาศไปหมด แถมเธอยังได้ถูกตั้งค่าหัวไว้ด้วย เนื่องจากว่าเธอนั้นสามารถอ่านโพเนกรีฟได้และเป็นคนๆเดียวที่หนีรอดจากเหตุการณ์นั้นได้ด้วยเช่นกัน
โรบินนั้นได้ไปพักอาศัยอยู่ในที่ต่างๆ แต่ตอนสุดท้ายแล้ว เธอก็ถูกหักหลังและถูกไล่ล่าตลอดเวลา จนกระทั่งเธอมาอยู่กับกลุ่มบาร๊อคเวิร์ก ที่ซึ่งคร๊อกโคดายน์นำข้อเสนอให้เธอ เพราะเธออ่านโพเนกรีฟได้
หลังจากเวลาผ่านไปจนในที่สุดพวกลูฟี่ได้มาถึงเกาะ อลาบาสต้า เธอนั้นซึ่งใจจริงไม่ชอบ คร๊อกโคดายน์อยู่แล้วก็ได้ช่วยเหลือลูฟี่ ในขณะที่ลูฟี่ได้แพ้คร๊อกโคดายน์ในรอบแรก
จนกระทั่งในที่สุดเธอได้มาเจอโพเนกรีฟ ในฐานลับใต้ดินของอราบาสต้าแต่แล้วเธอก็ไม่บอกสิ่งที่แท้จริงให้คร๊อกโคดายน์เลย จนทำให้คร๊อกโคดายน์ต้องฆ่าเธอทิ้งซะ แต่เพราะลูฟี่ ได้เข้ามาต่อสู้กับคร๊อกโคดายน์นั้น ในที่สุดลูฟี่ก็สามารถโค่นคร๊อกโคดายน์ได้
แต่เพราะโรบินนั้นไม่มีจิตใจที่จะมีชีวิตต่อแล้ว เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ลูฟี่ก็ได้ช่วยเหลือเธอจากเหตุการณ์ชั้นใต้ดินถล่มหลังจากที่ลูฟี่ซัดคร๊อกโคดายน์ปลิวออกไป
โรบินซึ่งได้ถูกช่วยเหลือไว้นั้น ในที่สุดเธอก็เข้าร่วมกับกลุ่มลูฟี่เนื่องจากลูฟี่ปล่อยเธอให้มีชีวิตไว้ และแล้วการผจญภัยของโรบินเพื่อที่จะไปหาโพเนกลีฟที่แท้จริงและค้นหาประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น....
สภาพของโรบินช่างย่ำแย่มากเพราะมีแต่คนรังเกียจนิโค โรบินเนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นปีศาจที่ได้กินผลปีศาจ ฮานะ ฮานะ[ผลิดอก] เข้าไป เลยไม่มีใครอยากเข้าใกล้ด้วย
เธอนั้นซึ่งมีแต่ความโศกเศร้ากับสิ่งต่างๆก็ได้เข้าไปในต้นไม้แห่งปัญญาซึ่งเธอได้ไปอ่านหนังสือ ซึ่งด๊อกเตอร์ โครบาก็เห็นเข้า และเธอก็ได้รับอนุญาติให้สามารถอ่านหนังสือต่างๆที่นี่ได้ฟรี
พอเธอ อายุ 8 ขวบนั้นเธอได้ผ่านข้อสอบโบราณคดี และได้รางวัลตราของนักวิชาการเป็นการตอบแทน หลังจากนั้น โรบินก็เลยอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ที่ว่างเปล่าเพราะเธอได้รางวัลตราแล้ว แต่ทว่า ด๊อกเตอร์ โครบาก็ต้องห้ามเธอและสั่งแบนเธอจาก ต้นไม้แห่งปัญญาถ้าเธอเข้าไปดูหรือรู้เรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่า เพราะว่าเธอยังเด็กแล้วอีกอย่างใครที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นคนผิดกฏหมายต่อโลก
โรบินซึ่งรับไม่ได้เลยวิ่งหนีร้องไห้ออกไป และได้ไปพบกับ ยักษ์เซาโร เข้าที่มาเกยฝั่งในเกาะโอฮาร่า หลังจากที่โรบินเริ่มตีสนิทกับ เซาโรนั้น เซาโรก็ได้รู้ว่าที่นี่เป็นเกาะโอฮารา และได้บอกโรบินให้คนอื่นรู้ว่า ตอนนี้พวกกองทัพเรือกำลังจะมาที่เกาะแห่งนี้แล้ว เพื่อมาจัดการพวกนักวิชาการของเกาะนี้ทุกคน
โรบินนั้นได้วิ่งไปที่ต้นไม้แห่งปัญญา ในขณะที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังวิ่งผ่านกันกับแม่ของเธอ หลังจากที่เธอมาถึงต้นไม้แห่งปัญญา เธอนั้น ก็รู้ว่าคนอื่นรู้กันหมดแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่ กองทัพเรือมาที่นี่ แต่เธอก็ถามทุกๆคนว่า แม่ของเธอมารึเปล่า ซึ่งโครบาก็ปฏิเสธ กลับไปว่าแม่จะมาอยู่ที่นี่ได้ไง
หลังจากที่พวกรัฐบาลได้บุกเข้ามาในต้นไม้แห่งปัญญา พวกรัฐบาลก็จับทุกๆคนออกไปและเตรียมพร้อมที่จะเผาหลักฐานทุกอย่างทิ้งซะ
ในขณะที่โรบินนั้นได้เห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เธอก็เริ่มรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นแม่ของเธออย่างแน่นอน และแล้วในทีสุดโรบินก็เจอกับแม่ของเธอในที่สุด แต่ทว่า...
มันก็เป็นช่วงเวลาอันสั้นๆ เพราะว่า โอลเวียได้บอกให้เซาโร พาโรบินหนีออกไปและให้โรบินจงมีชีวิตอยู่ต่อไป
หลังจากที่เซาโร พาโรบินมาที่ปลอดภัยแล้วนั้น เซาโรก็ต้องเจอกับ อาโอคิยิระหว่างทางและถูกกักกั้นเอาไว้พร้อมกับยอมเสียสละและบอกโรบินว่าสักวันจะต้องมีพรรคพวกและต้องรอโรบินอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
โรบินนั้นได้เจอสิ่งโหดร้ายต่างๆ ตั้งแต่บัสเตอร์ คอล และการจากของโอลเวีย และนักโบราณดดีทุกๆคน พร้อมกับเซาโร และเกาะที่เธออาศัยอยู่ ทุกอย่างได้พินาศไปหมด แถมเธอยังได้ถูกตั้งค่าหัวไว้ด้วย เนื่องจากว่าเธอนั้นสามารถอ่านโพเนกรีฟได้และเป็นคนๆเดียวที่หนีรอดจากเหตุการณ์นั้นได้ด้วยเช่นกัน
โรบินนั้นได้ไปพักอาศัยอยู่ในที่ต่างๆ แต่ตอนสุดท้ายแล้ว เธอก็ถูกหักหลังและถูกไล่ล่าตลอดเวลา จนกระทั่งเธอมาอยู่กับกลุ่มบาร๊อคเวิร์ก ที่ซึ่งคร๊อกโคดายน์นำข้อเสนอให้เธอ เพราะเธออ่านโพเนกรีฟได้
หลังจากเวลาผ่านไปจนในที่สุดพวกลูฟี่ได้มาถึงเกาะ อลาบาสต้า เธอนั้นซึ่งใจจริงไม่ชอบ คร๊อกโคดายน์อยู่แล้วก็ได้ช่วยเหลือลูฟี่ ในขณะที่ลูฟี่ได้แพ้คร๊อกโคดายน์ในรอบแรก
จนกระทั่งในที่สุดเธอได้มาเจอโพเนกรีฟ ในฐานลับใต้ดินของอราบาสต้าแต่แล้วเธอก็ไม่บอกสิ่งที่แท้จริงให้คร๊อกโคดายน์เลย จนทำให้คร๊อกโคดายน์ต้องฆ่าเธอทิ้งซะ แต่เพราะลูฟี่ ได้เข้ามาต่อสู้กับคร๊อกโคดายน์นั้น ในที่สุดลูฟี่ก็สามารถโค่นคร๊อกโคดายน์ได้
แต่เพราะโรบินนั้นไม่มีจิตใจที่จะมีชีวิตต่อแล้ว เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ลูฟี่ก็ได้ช่วยเหลือเธอจากเหตุการณ์ชั้นใต้ดินถล่มหลังจากที่ลูฟี่ซัดคร๊อกโคดายน์ปลิวออกไป
โรบินซึ่งได้ถูกช่วยเหลือไว้นั้น ในที่สุดเธอก็เข้าร่วมกับกลุ่มลูฟี่เนื่องจากลูฟี่ปล่อยเธอให้มีชีวิตไว้ และแล้วการผจญภัยของโรบินเพื่อที่จะไปหาโพเนกลีฟที่แท้จริงและค้นหาประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น....
**ค่าหัวของโรบิน**
- 79 ล้านเบรี
โรบินนั้นได้ค่าหัวนี้เนื่องจากหนีรอดจาก เกาะโอฮาร่ามาได้และยังเป็นนักโบราณคดีอีกด้วย
- 80 ล้านเบรี
โรบินได้ค่าหัวล่าสุดครั้งนี้เนื่องจากว่า ได้รอดชีวิตกลับไปจาก เอนิเอส ร๊อบบี้
โรบินนั้นได้ค่าหัวนี้เนื่องจากหนีรอดจาก เกาะโอฮาร่ามาได้และยังเป็นนักโบราณคดีอีกด้วย
- 80 ล้านเบรี
โรบินได้ค่าหัวล่าสุดครั้งนี้เนื่องจากว่า ได้รอดชีวิตกลับไปจาก เอนิเอส ร๊อบบี้
8.แฟรงกี้ เนื่องจากเจ้าหมอนี่มันคือ ไซบอร์คนั่นเอง และก็เป็นคนขี้ใจอ่อนร้องไห้ง่ายด้วยครับ
**ประวัติแฟรงกี้**
ชื่อ: แฟรงกี้ หรือ คาติฟูแลม
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: ช่างประจำเรือ
อายุ: 34
เพศ: ชาย
วันเกิด: 9 มีนาคม
ร่างกาย: เป็นไซบอร์คด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นปกติ
ค่าหัว: 44,000,000 เบรี
ความถนัด: ซ่อมแซมเรือ, สร้างเรือ
ความฝัน: นั่งเรือ เธาซัน ซันนี่ แล้วดูความสำเร็จของเรือ
**ข้อมูลของแฟรงกี้**
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: ช่างประจำเรือ
อายุ: 34
เพศ: ชาย
วันเกิด: 9 มีนาคม
ร่างกาย: เป็นไซบอร์คด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นปกติ
ค่าหัว: 44,000,000 เบรี
ความถนัด: ซ่อมแซมเรือ, สร้างเรือ
ความฝัน: นั่งเรือ เธาซัน ซันนี่ แล้วดูความสำเร็จของเรือ
**ข้อมูลของแฟรงกี้**
แฟรงกี้นั้นเกิดที่ เซาท์บลู โดยเป็นลูกโจรสลัดคนหนึ่งและมาอยู่ที่แกรนด์ไลน์ตอนอายุของเค้าพึ่ง 4 ขวบเท่านั้น, หลังจากที่ถูกทอด
ทิ้งในตอนอายุ 10 ขวบ เขาก็ใช้ชีวิตเป็นช่างซ่อมเรืออยู่กับ ทอม ซึ่งทอมนั้นก็สร้างเรือของโกลด์ ดี โรเจอร์ นั่นเอง ที่มีชื่อว่า โอโร
แจ๊คสัน แฟรงกี้และไอซ์เบิรกได้สร้างรถไฟทะเล ขึ้นมา หลังจากที่ สแปนดัม ได้แกล้งทอม แล้วจะเอา แบบแปลน Pluton มา หลัง
จากที่ ทอมไม่ยอมให้ Pluton ไป สแปนดัมเลยหาวิธีเอาเรือรบของแฟรงกี้ที่แฟรงกี้สร้างขึ้นมา มาโจมตีคดีในช่วงนั้น ทำให้ทอม
ต้องกลายเป็นนักโทษแล้วโดนจับไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้แล้วสั่งประหารซะเนื่องจากสร้างเรือของ โกล์ด โรเจอร์ แล้วเอาโทษที่โดนเรือ
รบยิงเป็นข้อเสียสละแทนในการสร้างรถไฟทะเล หลังจากนั้น แฟรงกี้ซึ่งไม่ยอมแพ้และต้องการทอมกลับมาตอนที่ทอมถูกโดนลักพา
ตัวไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้ แฟรงกี้ก็เลยโดนรถไฟทะเลชนบาดเจ็บขั้นสาหัสสุดๆ แต่แฟรงกี้นั้นก็ไม่ยอมแพ้เลยสร้างส่วนหน้าของร่างกาย
ตนเองให้เป็นมนุษย์ไซบอร์ค
หลังจากนั้น แฟรงกี้ หรือ คาติฟูแลม ก็กลับมาที่ วอเตอร์ 7 ซึ่งก็ได้มาอยู่และสร้างกลุ่ม แฟรงกี้ แฟมิลี่ ขึ้นมาและทำหน้าที่แยกชิ้น
ส่วนเรือตลอดมา จนกระทั่งกลุ่ม ลูฟี่มาถึง วอเตอร์ 7 นั่นเอง...
หลังจากเหตุการณ์ เอนิเอส ร๊อบบี้ จบลง แฟรงกี้นั้นได้บอกกับกลุ่มลูฟี่ว่าเอาเงิน 200 ล้านเบรีของลูฟี่เอาไปซื้อต้นไม้ อดัม เพื่อที่จะ
เอามาสร้างเรือ และเรือนี้ก็คือเรือ เธาซัน ซันนี่ นี่เอง
ทิ้งในตอนอายุ 10 ขวบ เขาก็ใช้ชีวิตเป็นช่างซ่อมเรืออยู่กับ ทอม ซึ่งทอมนั้นก็สร้างเรือของโกลด์ ดี โรเจอร์ นั่นเอง ที่มีชื่อว่า โอโร
แจ๊คสัน แฟรงกี้และไอซ์เบิรกได้สร้างรถไฟทะเล ขึ้นมา หลังจากที่ สแปนดัม ได้แกล้งทอม แล้วจะเอา แบบแปลน Pluton มา หลัง
จากที่ ทอมไม่ยอมให้ Pluton ไป สแปนดัมเลยหาวิธีเอาเรือรบของแฟรงกี้ที่แฟรงกี้สร้างขึ้นมา มาโจมตีคดีในช่วงนั้น ทำให้ทอม
ต้องกลายเป็นนักโทษแล้วโดนจับไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้แล้วสั่งประหารซะเนื่องจากสร้างเรือของ โกล์ด โรเจอร์ แล้วเอาโทษที่โดนเรือ
รบยิงเป็นข้อเสียสละแทนในการสร้างรถไฟทะเล หลังจากนั้น แฟรงกี้ซึ่งไม่ยอมแพ้และต้องการทอมกลับมาตอนที่ทอมถูกโดนลักพา
ตัวไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้ แฟรงกี้ก็เลยโดนรถไฟทะเลชนบาดเจ็บขั้นสาหัสสุดๆ แต่แฟรงกี้นั้นก็ไม่ยอมแพ้เลยสร้างส่วนหน้าของร่างกาย
ตนเองให้เป็นมนุษย์ไซบอร์ค
หลังจากนั้น แฟรงกี้ หรือ คาติฟูแลม ก็กลับมาที่ วอเตอร์ 7 ซึ่งก็ได้มาอยู่และสร้างกลุ่ม แฟรงกี้ แฟมิลี่ ขึ้นมาและทำหน้าที่แยกชิ้น
ส่วนเรือตลอดมา จนกระทั่งกลุ่ม ลูฟี่มาถึง วอเตอร์ 7 นั่นเอง...
หลังจากเหตุการณ์ เอนิเอส ร๊อบบี้ จบลง แฟรงกี้นั้นได้บอกกับกลุ่มลูฟี่ว่าเอาเงิน 200 ล้านเบรีของลูฟี่เอาไปซื้อต้นไม้ อดัม เพื่อที่จะ
เอามาสร้างเรือ และเรือนี้ก็คือเรือ เธาซัน ซันนี่ นี่เอง
**ค่าหัวของแฟรงกี้**
- 44 ล้านเบรี
สาเหตุที่ แฟรงกี้มีค่าหัวถึง 44 ล้านก็เพราะว่าเค้าเป็นคนไปทำลาย เอนิเอส ร๊อบบี้ กับกลุ่มหมวกฟาง และกำจัดฟุคุโร่ 1 ใน CP9
บวกกับ เค้าเป็นคนที่มีแบบแปลนในตอนแรกครับ แต่เผาทิ้งไปแล้ว
สาเหตุที่ แฟรงกี้มีค่าหัวถึง 44 ล้านก็เพราะว่าเค้าเป็นคนไปทำลาย เอนิเอส ร๊อบบี้ กับกลุ่มหมวกฟาง และกำจัดฟุคุโร่ 1 ใน CP9
บวกกับ เค้าเป็นคนที่มีแบบแปลนในตอนแรกครับ แต่เผาทิ้งไปแล้ว
9.บรู๊ค (นักดาบฮานาอุตะ" บรูค)
**ประวัติบรู๊ค**
ชื่อ: ฮัมมิ่ง บรู๊ค
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: นักดนตรี
อายุ:
วันเกิด: 24 ธันวาคม
ค่าหัว: 33,000,000
ความถนัด: ดนตรี-มุขแป๊ก
ความฝัน: อยากพบลาบูนอีกครั้ง
ผลปีศาจ: ผลโยมิ โยมิ [ความสามารถ: คืนชีพ]
สังกัด: กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
หน้าที่บนเรือ: นักดนตรี
อายุ:
วันเกิด: 24 ธันวาคม
ค่าหัว: 33,000,000
ความถนัด: ดนตรี-มุขแป๊ก
ความฝัน: อยากพบลาบูนอีกครั้ง
ผลปีศาจ: ผลโยมิ โยมิ [ความสามารถ: คืนชีพ]
**ข้อมูลของบรู๊ค**
ปรากฎครั้งแรก ในแกรนด์ไลน์ที่ “ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล” และเขาเคยเป็น พวกพ้องของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ ซึ่งเป็นกลุ่มของนักดนตรี มารวมตัวกัน และล่องเรือไปตามแกรนด ไลน์ จาก ทะเล เวสท์ บลู มา มากกว่า 50 ปีแล้ว และได้ถูกตามโดย ลาบูน ซึ่งเป็นปลาวาฬ และเป็นปลาวาฬที่ติดใจ อาโฟร ของบรูค
บรูคสัญญาว่า เมื่อไป ล่องเรือที่ แกรนด์ ไลน์แล้ว เขาจะต้องกลับไปเจอ ลาบูนแน่ๆ และ ให้ลาบูนรอที่เขา รีเวิร์ส เมาน์เทน เพราะว่า แกรนด์ ไลน์เป็นที่ๆอันตราย เกินไปสำหรับ ปลาวาฬตัวน้อยๆ
หลังจากที่ได้ไปที่ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล กลุ่มโจรสลัดรัมบะ ถูกโจมตี จากศัตรู ที่ไม่รู้จัก เพราะเขากิน ผล โยมิ โยมิ โนมิ ซึ่งเป็นผลปีศาจชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ เกิดใหม่ได้ หลังจากที่ได้ตายไปครั้ง หนึ่งแล้ว วิญญาณของ บรูคจึงถูก ย้อนกลับมาที่แกรนด์ไลน์ และเขาได้หลงทางเนื่องจาก หมอกหนาของ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล
หลังจากนั้น เขาก็เจอตัวของเขา ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจาก โครงกระดูก และ ผมอาโฟร จึงได้ เป็น โครงกระดูกที่เดินได้ ก่อนที่หมวกฟางจะมาถึง เขาถูกขโมยเงาโดย “เกกโค โมเรีย” ซึ่งขโมย เงาของบรูคไปไว้ที่ ซามูไรที่ชื่อว่า ริวมะ และเนื่องจาก เขาไม่สามารถโดน แสงอาทิตย์ได้เพราะ เขาไม่มีเงา เขาจึง หลบอยู่ใน ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล ที่มีหมอกหนา บังแสง อาทิตย์อยู่ และหลังจากนั้น เขาก็ได้พบ กันกลุ่มโจรสลัด หมวกฟาง
บรูคไม่ได้มีความฝัน ว่า จะได้ไปให้สุดแกรนด์ไลน์ แต่ว่า เขาต้องการจะไป ข้างหน้า ของแกรนด์ไลน์ และไปเจอ กับปลาวาฬ ลาบูน ที่เขาสัญญาไว้ว่า จะกลับไปหา และ เล่าเรื่องการผจญภัย ของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ และเล่น เพลงสุดท้ายที่กลุ่มโจรสลัด รัมบะ เล่นไว้ ก่อนจะตาย ให้ลาบูนได้ฟัง ซึ่งถูก อัดไว้ใน โธน ไดอัล
เขากลัว ว่าลาบูน จะจำเขาไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นโครง กระดูกไปแล้ว และไม่มีอาโฟร เขาจึงทำทุกอย่างที่จะปกป้อง อาโฟร ของเขา และทำให้เขา เสียเปรียบ เพราะศัตรู จะเล็งแต่อาโฟรของเขา เช่น ตอนที่สู้กับริวมะ
บรูค แก่ที่สุดในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ด้วยอายุถึง 50 ปี ด้วยกัน ถ้าไม่นับ มอนส์เตอร์ ของ ชอปเปอร์
อาจารย์ โอดะได้วางแผนไว้ว่า จะมี โครงกระดูกเดินได้ ที่เป็นนักดนตรี ประจำกลุ่มหมวกฟาง ตั้งแต่ ที่ ทำเรื่องเกี่ยวกับ ลาบูน ในปี 2000 ซึ่งบรูค โผล่มาในปี 2007
บรูคถือดาบเอาไว้ และสามารถใช้ได้เก่ง อีกด้วย เขาสามารถใช้พลังของดาบ ของเขาร่วมกับเสียงของ ไวโอลิน เพื่อใช้พลัง ของเสียง โจมตี
บรูคเคยเป็น นักสู้มาก่อน และเป็น ผู้ดักซุ่มโจมตี ของ ราชอาณาจักรแห่งหนึ่ง
เพราะเขาเป็น โครงกระดูก เขาจึงมีความเร็ว ที่คล่องแคล่ว และ สามารถกระโดด ได้ สูงมาก เพราะเขาตัวเบา
ตัวเขาเบามาก จนขนาด วิ่งบนน้ำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาตกน้ำ เขาจะไม่สามารถว่ายน้ำได้ เพราะเขามีพลังของ ผลปีศาจ
บรูคเป็นนักดนตรี ที่เก่งอีกด้วย เพราะ เขาสามารถเล่น เครื่องดนตรีได้ทุกชนิด ได้อย่างมือโปรอีกด้วย
บรูคบอกว่า เขาสามารถรักษาตัวเองได้ด้วย นม
กระโหลกของบรูค สามารถเปิด ปิด ได้ด้วย และสามารถใช้เป็นที่เก็บของ และนั่นเป็นที่ๆ เขาเก็บ โธน ไดอัล เอาไว้
บรูคสัญญาว่า เมื่อไป ล่องเรือที่ แกรนด์ ไลน์แล้ว เขาจะต้องกลับไปเจอ ลาบูนแน่ๆ และ ให้ลาบูนรอที่เขา รีเวิร์ส เมาน์เทน เพราะว่า แกรนด์ ไลน์เป็นที่ๆอันตราย เกินไปสำหรับ ปลาวาฬตัวน้อยๆ
หลังจากที่ได้ไปที่ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล กลุ่มโจรสลัดรัมบะ ถูกโจมตี จากศัตรู ที่ไม่รู้จัก เพราะเขากิน ผล โยมิ โยมิ โนมิ ซึ่งเป็นผลปีศาจชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ เกิดใหม่ได้ หลังจากที่ได้ตายไปครั้ง หนึ่งแล้ว วิญญาณของ บรูคจึงถูก ย้อนกลับมาที่แกรนด์ไลน์ และเขาได้หลงทางเนื่องจาก หมอกหนาของ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล
หลังจากนั้น เขาก็เจอตัวของเขา ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจาก โครงกระดูก และ ผมอาโฟร จึงได้ เป็น โครงกระดูกที่เดินได้ ก่อนที่หมวกฟางจะมาถึง เขาถูกขโมยเงาโดย “เกกโค โมเรีย” ซึ่งขโมย เงาของบรูคไปไว้ที่ ซามูไรที่ชื่อว่า ริวมะ และเนื่องจาก เขาไม่สามารถโดน แสงอาทิตย์ได้เพราะ เขาไม่มีเงา เขาจึง หลบอยู่ใน ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล ที่มีหมอกหนา บังแสง อาทิตย์อยู่ และหลังจากนั้น เขาก็ได้พบ กันกลุ่มโจรสลัด หมวกฟาง
บรูคไม่ได้มีความฝัน ว่า จะได้ไปให้สุดแกรนด์ไลน์ แต่ว่า เขาต้องการจะไป ข้างหน้า ของแกรนด์ไลน์ และไปเจอ กับปลาวาฬ ลาบูน ที่เขาสัญญาไว้ว่า จะกลับไปหา และ เล่าเรื่องการผจญภัย ของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ และเล่น เพลงสุดท้ายที่กลุ่มโจรสลัด รัมบะ เล่นไว้ ก่อนจะตาย ให้ลาบูนได้ฟัง ซึ่งถูก อัดไว้ใน โธน ไดอัล
เขากลัว ว่าลาบูน จะจำเขาไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นโครง กระดูกไปแล้ว และไม่มีอาโฟร เขาจึงทำทุกอย่างที่จะปกป้อง อาโฟร ของเขา และทำให้เขา เสียเปรียบ เพราะศัตรู จะเล็งแต่อาโฟรของเขา เช่น ตอนที่สู้กับริวมะ
บรูค แก่ที่สุดในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ด้วยอายุถึง 50 ปี ด้วยกัน ถ้าไม่นับ มอนส์เตอร์ ของ ชอปเปอร์
อาจารย์ โอดะได้วางแผนไว้ว่า จะมี โครงกระดูกเดินได้ ที่เป็นนักดนตรี ประจำกลุ่มหมวกฟาง ตั้งแต่ ที่ ทำเรื่องเกี่ยวกับ ลาบูน ในปี 2000 ซึ่งบรูค โผล่มาในปี 2007
บรูคถือดาบเอาไว้ และสามารถใช้ได้เก่ง อีกด้วย เขาสามารถใช้พลังของดาบ ของเขาร่วมกับเสียงของ ไวโอลิน เพื่อใช้พลัง ของเสียง โจมตี
บรูคเคยเป็น นักสู้มาก่อน และเป็น ผู้ดักซุ่มโจมตี ของ ราชอาณาจักรแห่งหนึ่ง
เพราะเขาเป็น โครงกระดูก เขาจึงมีความเร็ว ที่คล่องแคล่ว และ สามารถกระโดด ได้ สูงมาก เพราะเขาตัวเบา
ตัวเขาเบามาก จนขนาด วิ่งบนน้ำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาตกน้ำ เขาจะไม่สามารถว่ายน้ำได้ เพราะเขามีพลังของ ผลปีศาจ
บรูคเป็นนักดนตรี ที่เก่งอีกด้วย เพราะ เขาสามารถเล่น เครื่องดนตรีได้ทุกชนิด ได้อย่างมือโปรอีกด้วย
บรูคบอกว่า เขาสามารถรักษาตัวเองได้ด้วย นม
กระโหลกของบรูค สามารถเปิด ปิด ได้ด้วย และสามารถใช้เป็นที่เก็บของ และนั่นเป็นที่ๆ เขาเก็บ โธน ไดอัล เอาไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น